โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” ปลื้มคนไทยเที่ยวไทย “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” เดือนเดียวเงินสะพัดกว่า 5 พันล้านบาท เล็ง เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว จังหวัดสีฟ้า เฟส 2-3 เพิ่มปลายปีนี้-ต้นเดือนหน้า รวม 45 จังหวัด
วันที่ 23 พ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลื้มผลตอบรับหลังมาตรการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่ 17 จังหวัดสีฟ้า หรือ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทย ตั้งแต่มีการเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม มีประชาชนมั่นใจออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศ ผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ทำให้มีเม็ดเงินภายในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เข้าสู่ระบบภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการแล้วกว่า 5,186.1 ล้านบาท ยอดรวมการลงทะเบียน 909,937 คน ยอดการใช้สิทธิ์จองโรงแรมที่พัก 4,113 แห่ง คิดเป็น 1,296,872 ห้อง โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายโรงแรม/ที่พัก รวม 4,753.9 ล้านบาท และยอดการใช้จ่ายคูปองส่วนลดในร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ร้านสปา/นวด และอื่นๆ รวม 435.6 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย. 64) รวมทั้งในช่วงเทศกาลลอยกระทง อัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ในหลายพื้นที่ขยับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะในบางจังหวัดใกล้กรุงเทพมหานคร มีอัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 80 – 90
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า มีการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 – 21 พ.ย. 64 จำนวน 85,608 คน โดยเดินทางมาจากประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย และฝรั่งเศส ขณะเดียวกัน มีจำนวนผู้ยื่นขอลงทะเบียน Thailand Pass สะสมแล้วจำนวน 239,115 คน และได้รับการอนุมัติแล้ว 186,836 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยต่ำกว่า 7,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการควบคุมโรคควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวแก่ชาวต่างชาติได้
...
นายธนกร กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ยังเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพิ่มเติมในจังหวัดที่พร้อม ตามแผนการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย (Safety Entry) โดยกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาได้มีการประชุมปฏิบัติการร่วมกับจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แรงงานจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อหารือถึงเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนในพื้นที่ ความพร้อมในการเปิดจังหวัด ตามแผนเร่งรัดในการรองรับการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย (Smart Entry) ซึ่งในเฟส 1 (1 – 30 พ.ย. 64) ประสบความสำเร็จในการเปิดพื้นที่นำร่องเที่ยว 17 แล้ว ต่อไปในเฟส 2 ช่วงเวลา 1 – 31 ธ.ค. 64 เตรียมแผนขยายพื้นที่นำร่องเที่ยวเพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด รวมเป็น 33 จังหวัด และปีหน้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ยังเตรียมเปิดเพิ่มอีก 12 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามความพร้อมจังหวัดและความสมัครใจของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ