หมอทวีศิลป์ เผย ต่างชาติลงทะเบียนขอเข้าประเทศแล้ว 1.4 แสนคน ได้รับอนุมัติแล้ว 63% เปิดประเทศ 11 วัน พบติดเชื้อแค่ 0.11% ขอศึกษาเปลี่ยนมาตรวจ ATK แทน RT-PCR ก่อนเคาะอีกครั้ง 1 ธ.ค. นี้

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ รับทราบผลการเปิดประเทศ ว่าขณะนี้มีผู้ลงทะเบียน 147,503 คน ได้รับอนุมัติเข้าประเทศประมาณ 92,000 คน หรือ 63 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากโรงแรมและประกันภัยไม่ผ่าน หรือจองมาผิดที่ โรงพยาบาลที่คู่สัญญาไม่มีมาตรฐาน SHA พลัส และมีอีกหลายสาเหตุ ซึ่งที่ประชุมพูดคุยและหาช่องทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับความไม่พร้อมในเรื่องต่างๆ โดยนายกฯ รับทราบทุกปัญหา และมอบผู้ที่เกี่ยวข้องนำปัญหาไปแก้ไข ย้ำว่าทุกปัญหามีทางแก้ไข เพื่อเดินหน้าต่อไปและชื่นชมทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงาน

นอกจากนี้ มีผู้ที่เดินทางเข้ามาแบบ เทสต์ แอนด์ โก จำนวน 34,794 คน และจากแซนด์บ็อกซ์ จากการกักตัวทางเลือก 7 วัน หรือ 10 วัน เดินทางเข้ามา ทั้งหมดเป็นการทดสอบระบบเปิดประเทศของไทย ซึ่งผลเป็นที่น่าชื่นใจ และผลจากการที่มีระบบหลายรูปแบบ การตรวจสอบท่าอากาศยานในหลายจังหวัด พบว่าผู้ที่เดินทางเข้ามากว่า 3 หมื่นคน พบติดเชื้อ แค่ 38 คน บวกติดเชื้อรายใหม่วันนี้อีก 3 ราย โดยรวมแล้วอัตราการติดเชื้อทั้งประเทศแค่ 0.11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำมาก และค่าความเสี่ยงยังอยู่ในระดับที่จัดการป้องกันได้เพราะมีระบบคัดกรองป้องกันไม่ให้คนที่มีเชื้อนำเชื้อเข้ามา และแยกผู้ติดเชื้อออกไปได้ โดยประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุด อาทิ สหรัฐอเมริกา 4,200 คน พบติดเชื้อ 7 คน หรือ 0.17% เยอรมันนี 3,890 คน ติดเชื้อ 3 คน 0.08 เปอร์เซ็นต์ สหราชอาณาจักร 2,011 คน ติดเชื้อ 7 คน 0.35 เปอร์เซ็นต์

...

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่า ขอให้ประชาชนเข้าใจและสบายใจว่า ศบค. มีมาตรการรองรับ ทุกอย่างเปิดเผยได้ทั้งหมดเพื่อสะท้อนภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ส่วนมาตรการการเข้าประเทศตามแผนการเปิดประเทศในช่วงเวลาต่างๆ ขณะนี้ยังอยู่ในระยะที่หนึ่ง ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนเดิม

ส่วนแผนในเดือน ธ.ค. ที่ประชุมได้พูดคุยถึงการปรับวิธีตรวจเชื้อแบบ RT-PCR เป็น ATK เพื่อลดขั้นตอนการเสียเวลา เรื่องนี้ที่ประชุมรับทราบ โดยทางคณะกรรมการและนักวิชาการ กำลังประชุมและขอเวลาตรวจสอบข้อมูลว่าสิ่งที่ทำมา จนถึงเวลานี้มีอะไรเกิดขึ้น และเห็นว่ามาตรฐานการตรวจแบบ RT-PCR เชื่อถือได้มาก ดังนั้นหากต้องปรับมาเป็น ATK จะต้องมีการศึกษากันก่อน และยังมีเวลาพิจารณาก่อนถึงวันที่ 1 ธ.ค.นี้

ขณะที่ในช่วงเดือน ม.ค. 65 อาจจะเพิ่มประเทศที่เดินทางเข้ามามากขึ้น และอาจจะตรวจด้วย ATK ซึ่งทั้งหมดนี้ยังเป็นแผนที่พูดคุยและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะดูสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อตัดสินอนาคต.