ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กกว่า 100 คน นัดแต่งดำ ตบเท้าร้อง “คุณหญิงสุดารัตน์-ดร.โภคิน” หาทางช่วย หลังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการ "ไทยสร้างไทย" เสนอผ่อนผัน บังคับใช้ พ.ร.บ.โรงแรมอย่างน้อยอีก 3 ปี 

วันที่ 12 ต.ค. ที่จังหวัดภูเก็ต พรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วย ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ เข้าร่วมรับฟังปัญหาผู้ประกอบการโรงแรมบูติกจังหวัดภูเก็ตกว่า 100 คน หลังเดินทางมาเข้าพบ พรรคไทยสร้างไทย เพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องผลกระทบจากการสิ้นสุดการผ่อนผันผู้ประกอบการโรงแรมตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2552 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

ดร.โภคิน กล่าวว่า กฎหมายเกี่ยวกับผู้ประกอบการโรงแรม มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ อาทิ กฎหมายผังเมือง กฎหมายสิ่งแวดล้อม และกฎหมายควบคุมอาคาร จนกระทั่งมีคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 เพื่อผ่อนผันให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ผิดกฎหมายได้เข้าสู่ระบบได้ถูกต้อง จนถึงวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีโรงแรมทั้งสิ้นกว่า 70,000 ทั่วประเทศ แต่ได้รับใบอนุญาตเพียง 20,000 แห่งเท่านั้น จึงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กเป็นหลัก เนื่องจากติดปัญหากฎหมายควบคุมอาคาร ที่มุ่งเน้นอาคารขนาดใหญ่เป็นหลัก สำหรับเป็นโรงแรม

...

พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่า การแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการโรงแรมในระยะเร่งด่วน คือ รัฐบาลต้องผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรมอย่างน้อยอีก 3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

โดยให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ขออนุญาตตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ได้ปรับปรุงระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเบื้องต้น สามารถเปิดกิจการควบคู่กับการปรับปรุงอาคารตามกฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2564 ข้อหน่ึงซึ่งอนุญาตให้อาคารเก่าก่อนปี พ.ศ.2559 สามารถปรับปรุงอาคารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ให้ได้รับอนุญาตชั่วคราว เพื่อเปิดกิจการและร่วม Phuket SandBox ได้ หรือออก พ.ร.ก. เพื่อทดแทนคำสั่งหัวหน้า คสช. และขอให้สมาชิกสมาคมท่ีพักบูติกภูเก็ตจำนวนกว่า 80 ราย ที่เคยอยู่ในระบบ SHA+ สามารถดำเนินกิจการรับนักท่องเที่ยวได้ตามเดิม

และเร่งรัดกำชับหน่วยงานท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาผู้ที่อยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตประเภทโฮมสเตย์และโรงแรมโดยเร่งด่วน (ลดขั้นตอนทั้ง 3 ขั้นตอน)

นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทย มองว่า การแก้ไขปัญหาในระยะยาว จะต้องยกร่างกฎหมาย หรือแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรม โดยแยกเป็นโรงแรมในแต่ละประเภทให้มีชนิดของโรงแรมอย่างหลากหลาย เพื่อให้โรงแรมแต่ละชนิดได้เข้าสู่กฎหมายได้อย่างถูกต้อง.