“องอาจ” เผย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ “จุรินทร์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีสมัยหน้า เพราะมีคุณสมบัติเหมาะสม ผ่านเวทีสภาและฝ่ายบริหารมาหลายครั้ง ทำงานประสบความสำเร็จตามนโยบาย

วันที่ 3 ต.ค.2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถือเป็นเรื่องปกติของพรรคที่จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค คือ นายจุรินทร์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคประชาธิปัตย์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 ที่บัญญัติว่า ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการสมัครรับเลือกตั้ง และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นบุคคลที่ผ่านการเลือกตั้งภายในพรรคตามกฎเกณฑ์กติกาที่โปร่งใส มีตัวแทนสมาชิกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ตั้งพรรคขึ้นมาเองแล้วก็เลือกตัวเองขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ก็เป็นนักการเมืองที่ผ่านงานทางการเมืองทั้งงานในสภาก็เป็นประธานวิป มีบทบาทในสภาอย่างเด่นชัด ส่วนงานฝ่ายบริหารก็ผ่านการเป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบงานทั้งงานด้านเศรษฐกิจ สังคม มาหลายกระทรวง ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์สูงของพรรคคนหนึ่งจึงได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรคให้เป็นหัวหน้าพรรค

ในปัจจุบันการทำงานด้านบริหารเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำงานประสบความสำเร็จตามนโยบายที่ประกาศไว้ ทั้งการประกันรายได้เกษตรกรและผลักดันการส่งออก ทำรายได้เข้าประเทศอย่างมากขณะนี้ ถึงแม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไปทั่วโลกก็ตาม

...

ขณะเดียวกันการจัดกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์” ทั่วประเทศ ก็ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างดี รวมถึงใน กทม. ที่ได้ลงพื้นที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนช่วงโควิดระบาดอย่างรุนแรง ก็มีเสียงตอบรับจากประชาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ เพราะเป็นหัวหน้าพรรค และมีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสทำงานเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์บ้านเมืองต่อไป