เด็กพรรคกล้า ห่วงค่าเดินทางแพงซ้ำเติมสถานการณ์โควิด สะท้อนใจคนเมือง กรุงเทพฯไม่มีขนส่งสาธารณะเป็นมิตรกับประชาชน
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคกล้าเขตสวนหลวง-ประเวศ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจกำลังซ้ำเติมปัญหาโควิด แต่เป็นที่น่าเศร้าที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประเทศกลับไม่มีขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับประชาชนเลย
“เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่ต้องกล่าวเช่นนี้ เราเห็นการลงทุนในรถไฟฟ้ามากมายหลายสายที่ดูเหมือนดี เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย แต่พอย้อนมาดูความเป็นจริงกลับพบว่ามีการทำสัญญาแยกกัน หลายสาย หลายสัมปทาน หลายระบบ หลายการบริหารจัดการ การที่ระบบเหล่านี้แยกกันจัดการทำให้ไม่สามารถควบคุมราคาค่ารถได้ สุดท้ายคนรับภาระก็คือประชาชน ทั้งที่ขนส่งสาธารณะควรมีราคาถูก โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะที่รัฐเลือกลงทุนเป็นโครงสร้างหลัก ล่าสุด แม้แต่ตั๋วเดือนซึ่งเป็นโปรโมชั่นของ BTS ที่เคยช่วยให้คนใช้รถไฟฟ้าบ่อยในเส้นทางระยะยาวสามารถประหยัดเงินต่อเดือนได้เกือบครึ่งหนึ่งเพิ่งยกเลิกไป หมายความว่า ประชาชนที่กำลังลำบากอยู่แล้วจากโควิดถูกซ้ำเติมด้วยรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะไปโทษเอกชนก็ไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรในช่วงที่ผ่านมาซึ่งมีการล็อกดาวน์ทำให้คนใช้รถไฟฟ้าน้อยลง” นายอริย์ธัชกล่าว
นายอริย์ธัช กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนตอนนี้จะหันไปพึ่งรถเมล์ก็ยากเต็มที จริงอยู่ว่ามีราคาถูก แต่สภาพรถก็ย่ำแย่และขาดระยะจนทำให้ไม่สามารถควบคุมเวลาการเดินทางได้ การเผื่อเวลาเป็นอีกต้นทุนหนึ่งที่คนกรุงเทพฯ ต้องแบกรับ ทั้งที่ รัฐบาล และ กทม.มีงบประมาณที่มากพอในการลงทุนเพื่อทำให้ระบบขนส่งสาธารณะครบวงจร สามารถเพิ่มรถเมล์ให้ครอบคลุมเส้นทาง ดูแลสภาพรถให้ดีได้ แต่ 20 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้จะเหมือนอนุรักษ์ไว้อย่างนั้น ในบางด้านจะลงทุนพัฒนาขึ้นบ้างก็ไม่เป็นไร
...
“บางทีมองไปที่สถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางระบบขนส่งทางรางอันใหญ่โตแล้วก็ปวดใจแทนคนกรุงเทพฯ เราลงทุนไปกับสิ่งที่ดูโอ่อ่าแบบนี้ แต่จะมีกี่คนได้ใช้บริการเส้นทางเหล่านี้ด้วยราคาที่เหมาะสม งบประมาณมหาศาลที่ทุ่มลงไปเพียงแค่ตัดออกบางเส้นทางก็สามารถนำมาลงทุนในระบบรถเมล์ได้ทั้งกรุงเทพฯ จึงน่าเสียดายที่ไม่มีการคิดเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหาสัมปทานคงต้องอาศัยความกล้าของรัฐบาลในการจัดการแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต” นายอริย์ธัชกล่าว
นายอริย์ธัช กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อเสนอเบื้องต้นตอนนี้ เนื่องจากค่าเดินทางได้กลายเป็นหนึ่งในภาระหลักของคนกรุงเทพฯ เพราะเมื่อเริ่มเปิดให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นก็ควรต้องช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ประชาชนในรูปแบบเงินชดเชยเยียวยาด้วย ต้องไม่ลืมว่า ขณะนี้ยังมีเคอร์ฟิวทำให้ไม่มีขนส่งสาธารณะหลังสามทุ่มเป็นต้นไป มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากต้องลำบากเร่งรีบไปแออัดกันช่วงเวลาใกล้เคอร์ฟิวเพื่อกลับบ้านให้ทัน ต้องขึ้นรถไฟฟ้าหรืออาจต้องขึ้นแท็กซี่อย่างเลี่ยงไม่ได้ รายจ่ายเหล่านี้ไม่น้อย และเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเนื่องจากรัฐเป็นผู้ออกมาตรการ และถ้าเป็นไปได้ในส่วนของรถเมล์ควรเพิ่มเที่ยววิ่งและขยายเวลาออกไปให้ยาวขึ้นถึงเที่ยงคืน อย่าคิดเรื่องกำไรขาดทุนเป็นหลักและให้คิดเรื่องการบริการประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด