รมว.แรงงาน เผยหลักสำคัญนำร่อง 4 จังหวัด โครงการ Factory Sandbox ป้องกันคลัสเตอร์โรงงาน สร้างสมดุลระหว่างมาตรการด้านสาธารณสุขและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้า

วันที่ 10 กันยายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ “Factory Sandbox” ที่ จ.นนทบุรี พร้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของประเทศ

ประกอบกับในช่วงนี้การแพร่ระบาดส่งผลกระทบให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีปัญหาในเรื่องการผลิต แต่ประเทศไทยถือว่าเป็นผลดี เนื่องจากโรงงานต่างๆ สามารถผลิตและส่งออกได้ โดยเฉพาะกำลังการผลิตโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์ และอาหาร แช่แข็ง ซึ่งหากมีการแพร่ระบาดโรงงานเหล่านี้ จะเกิดผลกระทบมากมายเกี่ยวกับการผลิตการส่งออก

ดังนั้น เพื่อรักษาเสถียรภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานนำเสนอโครงการ Factory Sandbox ภายใต้แนวคิด “เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข” โดย Sandbox มุ่งเป้าไปที่โรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ ซึ่งมีแรงงาน 500 คนขึ้นไป โดยมาตรการควบคุมในพื้นที่เฉพาะ ดำเนินการโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาโควิดเชิงรุกภายในโรงงาน หากพบผู้ติดเชื้อจะนำผู้ติดเชื้อออกจากโรงงานและเข้าสู่ระบบการรักษาตามโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือประกันสังคมแบบ 100% พร้อมจัดให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 แบบ 100%

...

พร้อมกันนี้ จะเริ่มโครงการนำร่องต้นเดือนกันยายน 2564 ในพื้นที่เป้าหมาย คือ ระยะที่ 1 นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี ส่วนระยะที่ 2 จะเป็น พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ และจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการดำเนินการโครงการดังกล่าวใน 4 sector ได้แก่ ยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และอุปกรณ์การแพทย์ จำกัด ภายใต้ 4 หลักสำคัญ คือ

1. ตรวจ ดำเนินการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR แรงงานในสถานประกอบการทุกคน เพื่อแยกคนป่วยไปรักษาทันที และดำเนินการตรวจโดยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ทุกสัปดาห์

2. รักษา สถานประกอบการจัดให้มีสถานพยาบาลในสถานแยกกักตัว (Factory Isolation: FAI) และ Hospitel สำหรับผู้ป่วยสีเขียว โรงพยาบาลสนาม สำหรับผู้ป่วยสีเหลือง ICU สำหรับผู้ป่วยสีแดง

3. ดูแล ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ให้แรงงาน โดยเน้นกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง คนท้อง และออกใบรับรอง “โรงงานสีฟ้า” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน

4. ควบคุม ให้สถานประกอบการดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) และมาตรการด้านสาธารณสุข (DMHTT)

นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า การประสานความร่วมมือจากส่วนราชการ เอกชน และโรงพยาบาล ที่มาให้บริการลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถเข้าถึงการคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ถึงสถานประกอบการ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยังมอบนโยบายการดำเนินโครงการ Factory Sandbox ที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตส่งออก ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 7 แสนล้านบาท รักษาระดับการจ้างงานในภาคผลิตส่งออกได้กว่า 3 ล้านตำแหน่ง ป้องกันคลัสเตอร์โรงงานจากการติดเชื้อ สร้างสมดุลระหว่างมาตรการด้านสาธารณสุขและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้า พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไปได้.