เริ่มแล้ววันนี้ การผ่อนคลายล็อกดาวน์ให้กิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาเปิดได้ 50-75% หลังจากที่ ศบค.สั่งปิด 100% ไปกว่าเดือนทั้ง ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าในศูนย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย ฯลฯ ให้เปิดเฉพาะซุปเปอร์มาร์เกต ร้านอาหารนอกห้างหาบเร่แผงลอยก็ห้ามนั่งกิน ให้ซื้อกลับบ้านได้อย่างเดียว เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ก็ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด รถขนส่ง รถตู้ รถไฟ สายการบิน ปิดให้บริการหมด เศรษฐกิจพังเดือนละหลายแสนล้านบาท

พอเปิดก็ให้เปิดกว้างจนน่าตกใจ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารในห้างร้านติดแอร์ ให้รับลูกค้าได้ทันที 50% ซึ่งน่าเป็นห่วง ร้านในห้างพื้นที่ก็แคบ ร้านไม่มีแอร์นั่งกินได้ 75% บริการรถขนส่ง รถไฟ สายการบิน รับผู้โดยสารได้ 75% ของที่นั่ง ประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด เดินทางทั่วประเทศได้เสรีอีกครั้งทันที

การปลดล็อกครั้งใหญ่นี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามี คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.สาธารณสุข เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ สมาคมต่างๆ รวมทั้ง กกร. เคยทำหนังสือถึงนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผอ.ศบค. ซิงเกิลคอมมานเดอร์ มีทั้งข้อเสนอและขอเข้าพบ แต่ก็ไม่ได้เข้าพบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในที่สุด 9 นายกสมาคมธุรกิจ ก็ตัดสินใจยกทีมไปพบ คุณอนุทิน วันที่ 25 ส.ค. คุณศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการสมาคมศูนย์การค้าไทย เปิดเผยว่า 9 สมาคมเสนอให้เปิดธุรกิจเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เริ่มวันที่ 1 ก.ย. เปิดธุรกิจร้านอาหารเครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานที่ร้านได้ 50% รวมทั้งร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้าทุกชนิดไปจนถึงสนามกอล์ฟและกีฬากลางแจ้ง

ระยะที่ 2 เริ่ม 15 กันยายน ร้านอาหารในศูนย์ให้นั่งรับประทานในร้านได้ 75% เปิดร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ฯลฯ ระยะที่ 3 เริ่ม 30 กันยายนหรือเร็วกว่าที่กำหนด ร้านอาหารให้นั่งรับประทานในร้านได้เต็มรูปแบบ 100% เปิด โรงภาพยนตร์ ห้องจัดเลี้ยง ฟิตเนส ฯลฯ

...

หลังจากที่คุยกัน 3 ชั่วโมง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแถลงสั้นๆ ว่า กระทรวงสาธารณสุขรับหลักการ และมอบให้ กรมควบคุมโรค จัดทำรายละเอียด เสนอที่ประชุมใหญ่ ศบค. วันที่ 27 ส.ค. แล้ว ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ก็อนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แสดงว่า อำนาจแท้จริงในการออกมาตรการต่างๆ ยังคงอยู่ที่ คุณอนุทิน ในฐานะ รัฐมนตรีสาธารณสุข แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจตามกฎหมายไป 31 ฉบับก็ตาม ก็ยังต้องพึ่งบริการคุณอนุทินในทุกเรื่อง ตั้งแต่ การจัดสรรวัคซีน การออกกฎเกณฑ์ การเปิดปิดกิจการทุกชนิด ส่วน ศบค. กลายเป็น ตรายาง ที่คอยอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเท่านั้น

การทำงานของ คุณอนุทิน ครั้งนี้รวดเร็วมาก ใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น 9 สมาคมไปยื่นข้อเสนอวันที่ 25 ส.ค. วันที่ 27 ส.ค. นำเรื่อง เข้า ศบค.อนุมัติทันที มีผลวันที่ 1 ก.ย. ตามที่ 9 สมาคมเสนอเกือบทุกอย่าง สภาหอการค้าฯ และ สภาอุตสาหกรรมฯ ที่เสนอนายกฯ ไปหลายเรื่อง ควรเปลี่ยนเป้านำไปเสนอ คุณอนุทิน จะดีกว่า รู้ผลเร็วกว่าด้วย

เรื่องที่ผมเป็นห่วง ศบค.เปิดกว้างเร็วเกินไป เปิดให้บริการลูกค้าทันที 50% เพิ่มเป็น 75% ใน 15 วัน เปิด 100% ใน 30 วัน แทนที่จะเปิด 25% ก่อนเป็นขั้นๆ เหมือนต่างประเทศ ถ้าพลาดเกิดการระบาดระลอกใหม่จะคุมยากกว่าเดิม ผู้ติดเชื้อรายวันไทยยังสูงมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ คุณฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ชี้แจงว่า ที่เปิดไม่ใช่เพราะโควิดดีขึ้น แต่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนร้านอาหารรายเล็ก

แต่ที่ยังสับสนกันก็คือ มาตรการ COVID-19 Free ผู้ให้บริการในร้านและลูกค้า ต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม จะเอากันยังไงแน่ และใครจะเป็นคนตรวจ ถ้าร้านอาหารไม่ปฏิบัติตาม

ก็ต้องรอดูไปครับ การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ เหมือนคนทำงานค่าแรงรายวัน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”