ปะทะเดือดช่วงดึก ผู้ชุมนุมนิรนาม วัย 20 ถูกกระสุนปริศนาเข้าท้ายทอยทะลุคออาการ สาหัส บริเวณหน้า สน.ดินแดง “โรม” บุกโรงพักโวยตำรวจ กระสุนจริงมาจากไหน ตำรวจปฏิเสธเสียงหลง เรียก พฐ.มาเร่งตรวจวิถีกระสุนยันไม่ได้มาจากตำรวจในโรงพัก ยิงแค่กระสุนยางเพราะม็อบจะบุกโรงพัก นอกจากนี้ ยังมี เด็กอีก 2 คน ถูกยิงที่ไหล่และเท้า ไม่สาหัส ม็อบทะลุฟ้าเดือด นัดชุมนุมแยกราชประสงค์ เดินไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โจมตีการทำงานตำรวจที่ใช้ความรุนแรงใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตา หลังปราศรัยทำพิธีสาดสี ปาระเบิดปิงปองและสิ่งของใส่ ถูกตอบโต้ด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมส่งตำรวจ อคฝ. 2 กองร้อยออกมาเคลียร์พื้นที่จนแกนนำประกาศ ยุติการชุมนุม มวลชนถูกจับไป 6-7 คน กลุ่มฮาร์ดคอร์ ประกาศย้ายไปชุมนุมที่แยกดินแดงเหมือนเดิม

กรณีกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มราษฎร เยาวชนปลดแอก พร้อมกลุ่มแนวร่วมอีกหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายครั้ง เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และรัฐบาล เนื่องจากบริหารบ้านเมืองผิดพลาด ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ส.ค. กลุ่มทะลุฟ้านัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่ถูกตำรวจ อคฝ.ตั้งแนวรั้วลวดหนามสกัดบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ขณะเริ่มปราศรัยมีกลุ่ม จยย.ฮาร์ดคอร์บุกไปตัดลวดหนาม ทำให้ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางตอบโต้ จนต้องประกาศยุติการชุมนุม ขณะที่กลุ่ม จยย.มุ่งหน้ากลับไปปะทะตำรวจควบคุมฝูงชนบริเวณแยกดินแดง จนเกิดเหตุบานปลายมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บช่วงดึก

...

เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 ส.ค. พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง และ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้า สน.ดินแดง ไป ตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พบผู้บาดเจ็บเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน พบบาดแผลที่ลำคอด้านซ้ายเป็นรู คาดว่าน่าจะโดนยิง นำส่ง รพ.ราชวิถี แพทย์และพยาบาลนำคนป่วยเข้าห้องฉุกเฉินทำซีพีอาร์ อาการยังน่าเป็นห่วง อีกรายพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุพบชายมีบาดแผลถูกยิงนั่งอยู่ใต้ถุนแฟลตการเคหะห้วยขวางอาคาร 13 ซอยประชาสงเคราะห์ 34 เจ้าหน้าที่สืบสวน สน.ห้วยขวางไปตรวจสอบพบ ด.ช. อายุ 14 ปี นั่งอยู่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบชนิด 1 แผลที่หัวไหล่ ให้การเบื้องต้นว่า ไปร่วมชุมนุมหน้า สน. ดินแดง ไม่ทราบว่าใครยิง เลยหนีไปหาเพื่อนที่แฟลตดังกล่าว นำส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์ มีรายงานด้วยว่า จากเหตุการณ์ตำรวจควบคุมฝูงชน ปะทะผู้ชุมนุมบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง มีผู้บาดเจ็บ 7 คน เป็นตำรวจ 1 นาย ผู้ชุมนุมถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน ที่เหลือบาดเจ็บจากวัตถุไม่ทราบชนิด

ต่อมาเวลา 00.30 น. วันที่ 17 ส.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมทีมงาน เดินทางมายัง สน.ดินแดง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีประชาชนถูกยิงด้วยกระสุนจริง พบมีตำรวจไม่กี่นายกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่รอบสถานีตำรวจนำลวดหนามหีบเพลงและแผงกั้นเหล็กมาปิดกั้นไว้ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เดินทางมาเนื่องจากโลกออนไลน์แชร์กันเยอะมากว่ามีเหตุการณ์ยิงกันหน้าสถานีตำรวจแห่งนี้ หากให้พูดถึงว่าจะมีมือที่ 3 มายิงในสถานที่แห่งนี้ถือว่ายากมาก หากมีเหตุการณ์ยิงจากสถานีแห่งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ

ด้าน รพ.ราชวิถี ออกแถลงข่าวว่า จากเหตุการณ์ที่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงถูกนำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลราชวิถี พบผู้บาดเจ็บเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี ไม่ทราบชื่อ-สกุล ไม่มี เอกสารประจำตัว แรกรับหมดสติไม่หายใจ ไม่มีชีพจร ตรวจพบบาดแผลจากกระสุนที่ลำคอด้านซ้าย ทีมแพทย์ฉุกเฉินใส่ท่อช่วยหายใจและปั๊มหัวใจประมาณ 6 นาที ผู้บาดเจ็บกลับมามีสัญญาณชีพ ตรวจ เพิ่มเติมโดยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบกระสุนค้างอยู่บริเวณก้านสมอง 1 นัด และกระดูกต้นคอซี่ที่ 1-2 แตก ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ในอาการโคม่า

ที่ รพ.ราชวิถี น.ส.พร (นามสมมติ) มารดาของนายฤทธิ์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี บุตรชาย ที่ถูกยิงที่คออาการสาหัส บริเวณด้านหน้า สน.ดินแดง เบื้องต้นไม่พบหลักฐานในตัวคาดว่าอายุประมาณ 20 ปี แต่หลัง น.ส.นิภาพร เดินทางมาโรงพยาบาล เผยทั้งน้ำตาว่า นายฤทธิ์ ผู้บาดเจ็บอายุ 15 ปี ยังเรียนชั้น ม.3 เมื่อคืนขณะเกิดเหตุตนปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ จึงไม่ทราบว่าเกิดเหตุกับลูกจนกระทั่งเวลา 05.30 น. ตื่นขึ้นมาทราบข่าวตกใจและเสียใจ มาก ลูกบอกว่าจะออกมาชุมนุม ตนห้ามแล้วเพราะห่วงความรุนแรง ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ขอให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ ขอความเป็นธรรมให้ลูกด้วย เพราะขณะนี้อาการโคม่า ได้แต่ภาวนาขอให้ลูกปลอดภัย

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.กล่าวว่า จากเหตุชุมนุมป้อมจราจรเสียหาย 4 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ สน.นางเลิ้ง สน.พหลโยธิน สน.สุทธิสาร และ สน.ห้วยขวาง ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 13 คน เป็นเยาวชน 5 คน ส่วนเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบริเวณ สน.ดินแดง มีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 3 คน คนแรก อายุ 14 ปีถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบชนิดที่ไหล่ขวา สอบถามเบื้องต้นให้การว่า ไปร่วมชุมนุมหน้า สน.ดินแดง และ ถูกยิง จากนั้นหลบหนีมาหาเพื่อนพักอยู่แฟลต 13 ส่งไปรักษาตัว รพ.จุฬาฯ อาการปลอดภัย บิดาผู้บาดเจ็บ บอกว่า ลูกชายถูกยิงขณะขี่รถ จยย.บริเวณโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง แต่ยังไม่แน่ชัด ส่วนคนที่สองถูกยิงบริเวณแยกดินแดงมุ่งหน้าแยกประชาสงเคราะห์ ตรวจสอบไม่พบเอกสาร ถูกยิงบริเวณลำคอรักษาตัวอยู่ รพ.ราชวิถี อีกคนอายุ 16 ปี ถูกโลหะยิงเข้าที่เท้าขวารักษาตัว รพ.เพชรเวช แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน

ส่วนกรณีมีภาพเป็นชายยืนอยู่บน สน.ดินแดง ใช้ปืนยิงควบคุมสถานการณ์ ผบช.น.กล่าวยืนยันว่า เป็นตำรวจจริง แต่ใช้กระสุนยางยิงข่มขู่ป้องกันสถานที่ราชการ ไม่มีการใช้กระสุนจริง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นพบว่า กล้องบางตัวจับภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของผู้บาดเจ็บได้ชัดเจน กล้องบางตัวถูกผู้ชุมนุมนำวัสดุมาปิดกั้น บ่ายวันนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปจำลองเหตุการณ์ ตรวจวิถีกระสุนระหว่างเกิดเหตุ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กระสุนมาจากทิศทางใด ยอมรับว่าในพื้นที่มีการใช้กระสุนจริงจากบุคคลไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่ใช่ตำรวจ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนแทนนายกฯ กรณีเกิดการปะทะหลังการชุมนุมว่า นายกฯให้นโยบายมาตลอดให้เจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยยึดกฎหมายที่มีอยู่อย่างระมัดระวัง การต้องสลายการชุมนุมให้ยึดหลักสากล ให้ระงับเหตุ ที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชน ทั้งการจราจร ทำลายทรัพย์สินราชการ หรือทำร้าย เจ้าหน้าที่ด้วยวิธีการต่างๆโดยเร็ว ทั้งนี้ นายกฯเป็นห่วง ไม่อยากให้กลับไปเหมือนในอดีตช่วงที่มีการชุมนุม แล้วอาจมีเหตุการณ์บานปลายเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงออกมาชุมนุม นอกจากโควิด-19 ยังแพร่ ระบาดแล้วยังต้องถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่ สน.ดินแดง เวลา 13.45 น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร. (สบ 8) ปฏิบัติราชการ บช.น. เผยภายหลังเรียกประชุมตำรวจ สน.ดินแดงว่า วันนี้ตำรวจ ระดมชุดสืบสวนมอบหมายงานลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เน้นการสอบสวนพยานแวดล้อม ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุกรณีผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นพบภาพจากกล้องวงจรปิดขณะผู้บาดเจ็บวิ่งหลบหนีมาจากทางโรงแรมปริ๊นส์ตั้น พาร์ค สวีท ล้มลงห่างจากหน้า สน.ดินแดงประมาณ 50 เมตร อยู่ระหว่างตรวจสอบวิถีกระสุนว่า ผู้บาดเจ็บถูกกระสุนยิงมาจากทิศทางใด ส่วนผลการตรวจของแพทย์ พบว่า รอยกระสุนมาจากด้านหลังทะลุต้นคอและ กระสุนฝังก้านสมอง 1 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บที่เป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ทราบว่ามีรอยกระสุนถูกยิงที่หัวไหล่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ ตำรวจ อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ตำรวจยิงปืนกระสุนยางจาก สน.ดินแดง มาสอบปากคำ ยอมรับว่าเป็นนายตำรวจ สน.ดินแดงจริง ยิงกระสุนยาง ไป 6 นัด ส่งตัวนายตำรวจนายนี้พร้อมปืนที่ใช้ให้ กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบตามกระบวนการ

เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.วิสูตร นาคจู ผบก.พฐก.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 30 นาย ตั้งแถวปูพรมยืนเป็นเรียงหน้ากระดานเดินเก็บพยานหลักฐานเป็นทางยาวบริเวณริมถนนมิตรไมตรี หน้า สน.ดินแดง เป็นระยะทางกว่า 200 เมตร สามารถเก็บหลักฐานเป็นวัตถุลักษณะหัวตะกั่วตกตามพื้นและลูกแก้วรวมถึงกระสุนยางที่ตำรวจใช้ นอกจากนี้ บริเวณกำแพงศาลาว่าการกรุงเทพฯ 2 ตรงข้าม สน.ดินแดง ยังมีร่องรอยรูที่คาดว่าจะเกิด จากรอยกระสุนอีก 6-7 รู เจ้าหน้าที่บันทึกภาพและวัดขนาดรวมถึงเช็กวิถีกระสุน รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดประกอบสำนวน และนำไปเปรียบเทียบกับพยานวัตถุที่เกิดเหตุชุมนุมในจุดอื่นเพื่อนำมาเทียบ เคียงกันต่อไป

หลังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พฐ. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร เผยว่า ยังไม่แน่ชัดว่ากระสุนที่ยิงใส่ ผู้บาดเจ็บมาจากทิศทางใด แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจแนววิถีกระสุนของตำรวจที่ยืนอยู่บริเวณหน้า สน.ไปยังจุดที่ผู้บาดเจ็บล้มลงแล้ว ยืนยันว่าไม่สามารถใช้ปืนยิงกระสุนยางไปยังผู้บาดเจ็บได้ เพราะมีศาลพระภูมิและรั้วของสถานีตำรวจขวางแนวยิงอยู่ หากเป็นการใช้กระสุนจริง ปืนลูกซองดังกล่าวจะใช้คู่กับกระสุนลูกปราย เมื่อถูกยิงออกไป ย่อมสร้างร่องรอยกระจายตามศาลพระภูมิ แต่ไม่พบ ร่องรอยดังกล่าว ประกอบกับระยะหวังผลของกระสุนลูกปรายอยู่ที่ประมาณ 30 เมตร แต่เมื่อวัดระยะจากจุดที่เจ้าหน้าที่อยู่ไปยังผู้บาดเจ็บระยะกว่า 38 เมตร เกินวิถีฉกรรจ์ของกระสุนลูกปราย ดังนั้นยืนยันว่า ตำรวจที่ปรากฏในคลิปไม่ใช่ผู้ที่ยิงผู้บาดเจ็บแน่นอน

วันเดียวกัน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบหน้าสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายสมบัติ ระบุว่า วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พ.ร.ก.ควบคุมโรค กรณีร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบหน้าสนามบินดอนเมือง ตนให้การปฏิเสธ ค่อยมาว่ากัน ส่วน การจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป ตอนนี้อยู่ระหว่างออกแบบ แต่มีแน่นอน นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก ข้อหาเดียวกันอีก 2 คน คือ นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ“ไฮโซลูกนัท”

ต่อมาเวลา 15.00 น. บริเวณแยกราชประสงค์ หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ กลุ่มทะลุฟ้า นำโดยนายนวพล ต้นงาม และนายทรงพล สนธิรัตน์ นัดหมายมวลชนแนวร่วมจัดชุมนุม 17 สิงหา ไล่ล่าทรราช เป็นกิจกรรมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 และประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองอย่างสันติวิธี ประชาชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง เยาวชน นักศึกษา อาชีวะ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก ในกิจกรรมยังแสดงภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาทำร้ายประชาชนผู้ชุมนุมกับกลุ่มทะลุฟ้าระหว่างวันที่ 11-16 ส.ค.นับสิบภาพ ท่ามกลางตำรวจ สน.ปทุมวัน และ สน.ลุมพินี เฝ้าสังเกตการณ์โดยรอบ มีการปิดการสัญจรบนสกายวอล์กตั้งแต่ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามสแควร์

เวลา 16.00 น. กลุ่มทะลุฟ้าตั้งขบวนมวลชนเดินประท้วงพร้อมปราศรัยโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชนจากแยกราชประสงค์ไปยังหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมาถึงมวลชนแนวร่วมส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่นต่างพร้อมใจกันบีบแตรและเบิ้ลเครื่องยนต์รถ จยย.ดังต่อเนื่อง 5 นาที ต่อมากลุ่มทะลุฟ้าอ่านแถลงการณ์ประณามเจ้าหน้าที่ตำรวจ จบแล้วผู้ร่วมชุมนุมร่วมกันปาถุงสีชมพู ก้อนอิฐ ขวดน้ำ และประทัดใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนตำรวจตอบโต้ด้วยการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงจีโน่ฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

เวลา 16.28 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน 2 กองร้อยเคลื่อนกำลังออกจากประตูหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าควบคุมพื้นที่ถนนพระราม 1 หน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าเคลียร์พื้นที่ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่าไปจนถึงแยกราชประสงค์ พร้อมจับกุมผู้ชุมนมที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่กระจายถอยร่นไปบริเวณแยกราชประสงค์ และบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนปาขวดน้ำใส่แนวตำรวจควบคุมฝูงชนด้วยความโกรธแค้น ขณะที่แกนนำทะลุฟ้าใช้รถกระจาย เสียงปราศรัยโจมตีการสลายการชุมนุมต่อเนื่อง

ต่อมากลุ่มทะลุฟ้าประกาศผ่านเพจ “ทะลุฟ้า-thalufah” ยุติการชุมนุม ขอให้พี่น้องประชาชนที่ร่วมชุมนุมเดินทางกลับโดยด่วน ระบุว่า ขอให้พี่น้องประชาชนเดินออกไปยังโรงจอดรถห้างเซ็นทรัลเวิลด์และแยกราชประสงค์ วันนี้เรามาเพื่อประณามโดยการสาดสีตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐที่สาดกระสุนใส่พี่น้องประชาชนที่ร่วมชุมนุมอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ เวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่า ไม่มีความประสงค์จะจับกุมใครดำเนินคดี ขอให้ประชาชนที่มาชุมนุมยุติกิจกรรมและเดินทางกลับบ้านทางแยกประตูน้ำ ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกลงมาอย่างหนัก

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เผยภายหลังตำรวจเข้ากระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้าว่า หลังจากผู้ชุมนุมเริ่มเคลื่อนตัวมาหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจประกาศแจ้งเตือนแล้วว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมยังเพิกเฉย ขว้างถุงสี ระเบิดปิงปอง ขวดน้ำ และวัตถุต่างๆเข้าไปภายใน ตร. เจ้าหน้าที่จึงปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงทำให้ผู้ชุมนุมแยกไป 2 ส่วนคือ ไปทางแยกราชประสงค์ และแยกเฉลิมเผ่า ตำรวจเข้าดำเนินการจับกุมผู้ชุมนุม 6-7 คน แม้ยุติการชุมนุมแล้ว แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนประกาศจะไปยังสามเหลี่ยมดินแดงเผชิญหน้ากันเหมือนทุกครั้ง

ขณะที่บรรยากาศแยกสามเหลี่ยมดินแดงเวลา 16.29 น. หลังกลุ่มทะลุฟ้าประกาศยุติการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ กลุ่ม จยย.วัยรุ่นขี่รถเข้ามาปาระเบิด ปิงปองบริเวณหน้าตู้คอนเทนเนอร์ บนถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ยิงหนังสติ๊ก และจุดไฟเผาแท่งแบริเออร์ยาง สีส้มบนถนน ตำรวจควบคุมฝูงชนด้านหลังแนวกำแพงตู้คอนเทนเนอร์บนถนนวิภาวดีรังสิตขาออก จึงยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ พร้อมเดินขึ้นไปบนทางด่วนดินแดง ยิงแก๊สน้ำตาจากด้านบนเพื่อไล่กลุ่มวัยรุ่นออกจากแยกสามเหลี่ยมดินแดง

เวลา 17.45 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย พร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนครบมือ ตั้งแนวหน้ากระดานจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินหน้ากดดันกลุ่มวัยรุ่นบนถนนดินแดงขาออกตรงทางลงอุโมงค์ลอดแยกสามเหลี่ยมดินแดง ประชาสงเคราะห์ เพื่อกดดันไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวก่อความวุ่นวายในพื้นที่ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นต้องล่าถอยแตกออกไปยังถนนประชาสงเคราะห์ด้านหน้าแฟลตดินแดง จนเกิดการปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชนเป็นระยะ