นายกรัฐมนตรี เรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 1 ส.ค.นี้ จับตาคงมาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องเพื่อดึงยอดผู้ติดเชื้อลดลง ปรับพื้นที่สีแดงเข้ม ลุ้นผ่อนปรนขายอาหารในห้าง พร้อมถกข้อเสนอ รพ.เอกชน

วันที่ 31 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 18,912 ราย และเสียชีวิต 178 ราย ขณะที่มาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 ให้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. จะครบเวลาประเมินสถานการณ์อย่างน้อย 14 วัน ตามประกาศ ในวันที่ 2 ส.ค.นั้น

สำหรับในวันที่ 1 ส.ค. 2564 เวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะเป็นประธานประชุม ศบค. ครั้งที่ 11/2564 ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องผ่านระบบซูม

ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่ ศบค. จะยังคงข้อกำหนดฉบับที่ 28 โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) 13 จังหวัด ต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่ง ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ หากล็อกดาวน์เข้มข้นและมีประสิทธิภาพจะลดจำนวนการติดเชื้อลงได้ หากไม่ล็อกดาวน์ตัวเลขจะยิ่งพุ่งสูงขึ้น และคาดว่าจะมีหารือปรับพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มเพิ่มเติม หลังพบว่าหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการเดินทางกลับภูมิลำเนาของผู้ป่วยโควิด

นอกจากนี้ คาดว่าจะพิจารณาผ่อนปรนบางมาตรการ เช่น ขายอาหารในห้างสรรพสินค้า ให้ขายแบบเดลิเวอรี่สั่งกลับบ้านเท่านั้น โดยจะเข้มงวดมาตรการป้องกันส่วนบุคคลของพนักงานในครัวมากขึ้น รวมถึงจะมีติดตามการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชาชนในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มแรงงาน รวมถึงจัดสรรวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมาย ติดตามความคืบหน้าหลังการปรับแผนการฉีดวัคซีน และรายงานข้อเสนอของโรงพยาบาลเอกชนที่เสนอเพิ่มเตียงสีเหลือง เตียงสีแดง และห้องความดันลบ.

...