“หมอทวีศิลป์” เผย ไม่สบายใจทุกครั้งที่ต้องประกาศข้อกำหนด จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเดินทาง ทำประชาชนได้รับผลกระทบ ขอช่วยกัน 14 วัน หวังได้เห็นข่าวดี
วันที่ 10 ก.ค. 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังกล่าวถึงการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่จะใช้ในการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ของ 10 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม อย่าง กทม. ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.-25 ก.ค. 2564
ทั้งนี้ โฆษก ศบค. ตอบคำถามในช่วงท้ายถึงเรื่องผู้ที่จะการเดินทางเข้ามารับวัคซีนโควิด-19 ตามใบนัดและไม่มีใบนัดใน กทม. ทำได้หรือไม่ ว่า เพื่อการสาธารณสุข การรับวัคซีนสามารถทำได้ โดยขอให้แจ้งกับทางฝ่ายมั่นคงซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบ เพราะเป็นเหตุผลจำเป็นสำคัญชี้แจงได้และอยากให้ประชาชนได้รับวัคซีน และหากมีใบอนุญาตที่รับรองจากฝ่ายปกครองมาด้วยก็จะดียิ่งขึ้น ส่วนการข้ามจังหวัดมาตรการที่ออกมาเพื่อเลี่ยงไม่ให้ 10 จังหวัดสีแดงเข้มออกไปนอกจังหวัด
ส่วนกรณีข้อกำหนดเรื่องการปิดสถานเสริมความงาม ก็รวมถึงคลินิกเสริมความงามที่เกี่ยวกับใบหน้าด้วย เพื่อลดการสัมผัสลดความเสี่ยงในการใกล้ชิดกัน และตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของการควบคุมโรค
นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุทิ้งท้ายว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) มีมติมอบให้ทางประชาสัมพันธ์จังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นผู้นำชุดข้อมูลต่างๆ สื่อสารถึงพี่น้องประชาชนจะได้ปฏิบัติตัวถูก เพราะบางข้อใช้สำหรับ 10 จังหวัด บางข้อสำหรับ 6 จังหวัด บางข้อทั่วประเทศ ซึ่งครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. จะพิจารณาเป็นจุดๆ ไป นี่คือการล็อกดาวน์เป็นจุด เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่จะกระทบต่อบุคคลที่ปรากฏอยู่ในการออกข้อกำหนดต่างๆ พร้อมขอความร่วมมือทุกคนเพื่อที่การควบคุมป้องกันโรคจะสำเร็จได้
...
“เราจะสู้กับภัยของเชื้อโรคที่มองไม่เห็นตัว แต่อยู่ในร่างกายของคน สิ่งที่ควบคุมโรคคือการควบคุมคน ประชาชนคนไทยเราเอง ขอความร่วมมือท่านช่วยกันอดทนซะหน่อย ผมเองไม่ค่อยสบายใจทุกครั้งเวลาที่ต้องมาประกาศในข้อกำหนดต่างๆ เพราะว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการเดินทาง แล้วก็ทำให้ท่านต้องทำให้มีผลกระทบต่อรายได้ ต่อครอบครัว อะไรต่างๆ มากมาย แต่ว่าเราเลี่ยงไม่ได้ มาตรการเหล่านี้ก็เป็นสากลไปแล้ว ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทย ทุกประเทศในโลกนี้ตอนนี้ยอมรับในมาตรการที่จะต้องเพิ่มระดับ คือเรื่องของการล็อกดาวน์ ครั้งนี้เราเลือกวิธีการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ ขอความร่วมมือทุกท่านเพื่อที่จะได้ใช้เวลา 14 วันนี้ ในการพิสูจน์ความร่วมไม้ร่วมมือกันของพี่น้องชาวไทยกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่เราจะได้สู้กับไวรัส และหลัง 14 วัน ขอให้เป็นภาพที่เราจะได้เห็นข่าวดีด้วยกัน”