โฆษกรัฐบาล แถลงยัน กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ อย่าง “ร้านรับซ่อม-ซักรีด-สปา-ดูแลความงาม” ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล เตรียมรับเยียวยา 1 เดือนด้วย หลังได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 25

วันที่ 29 มิ.ย. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการเยียวยา 6 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่ก่อสร้างและแคมป์คนงาน, ไม่ให้นั่งทานในร้านอาหาร, งดประชุมสัมมนา การจัดเลี้ยง, ห้ามทำกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน 20 คน ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25)

ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะลูกจ้าง แรงงาน และผู้ประกอบการ วันนี้จึงมีมติเห็นด้วยกับหลักการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 25 สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับความช่วยเหลือเป็นเวลา 1 เดือน คือ แรงงานและผู้ประกอบการในกิจการที่ได้รับผลกระทบ

  • กิจการก่อสร้าง
  • กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
  • กิจการศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ
  • กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด

สำหรับกิจกรรมและการบริการด้านอื่นๆ นั้น จะรวมกิจการในส่วนของการซ่อมต่างๆ อาทิ ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์อุปกรณ์สื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซ่อมเครื่องใช้ในครัวเรือน ซ่อมรองเท้า ซ่อมเครื่องหนัง ซ่อมเครื่องหนัง ซ่อมเฟอร์นิเจอร์ ซ่อมนาฬิกา ซ่อมเครื่องแต่งกาย ซ่อมจักรยานยนต์ ซ่อมเครื่องดนตรี ซ่อมเครื่องกีฬา รวมถึงกิจกรรม อย่างเช่น สปา การบริการลดน้ำหนัก การแต่งผม ดูแลความงาม แต่งเล็บมือ-เท้า บริการซักรีด ดูแลสัตว์เลี้ยง ทั้งหมดอยู่ในส่วนหนึ่งของกิจกรรมและการบริการด้านอื่นๆ ที่จะได้รับการเยียวยาด้วย ดังนี้

...

ลูกจ้าง

  • รับเงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท
  • รัฐจ่ายเพิ่มอีก 2,000 บาท

นายจ้าง

  • รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท ต่อหัวของลูกจ้างในสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 200 คน

ผู้ประกอบการ/นายจ้าง ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม

  • กรณีมีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม ภายใน ก.ค.นี้ รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อหัวของลูกจ้างในสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 200 คน, ลูกจ้างคนไทยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท
  • กรณีไม่มีลูกจ้าง ลงทะเบียนผ่านแอป “ถุงเงิน” โครงการคนละครึ่ง ภายใน ก.ค.นี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท