"การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา" บ่งบอกถึงพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่าง “พลังประชารัฐ” ลงสนามเลือกตั้งได้ทันทีที่มีเสียงนกหวีดดังขึ้น เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้บอกในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐว่า ถ้าพูดตามภาษาราชการ เราได้แบ่งเขตการปกครองเป็น 10 ภาค
หัวหน้าภาคมีหน้าที่กำกับดูแล เช่น ภาคใต้ มีภาค 8 ภาค 9 อย่างภาค 8 ประกอบด้วยจังหวัดชุมพร ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา
หัวหน้าภาคจะประชุม ส.ส.ภาค เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่หรือวางนโยบายพัฒนาพื้นที่ใช้สำหรับรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พร้อมวางตัวผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.เขตละ 3 คน เพื่อทำงานแข่งกันในพื้นที่ ก่อนทำโพลคัดให้เหลือ 1 คน ส่วนคนที่ไม่ได้ก็มีตำแหน่งทางการเมืองรองรับ
ส่วนเขตที่แพ้ไม่ถึง 1-3 พันคะแนนมีเยอะมาก โดยเฉพาะภาคอีสาน ได้มอบหมายให้หัวหน้าภาคสำรวจว่าที่ผู้สมัครที่ยังไม่ทิ้งพื้นที่และสู้ต่อ เขตไหนคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งเยอะตัดทิ้งและหาคนใหม่ลงแทน
เราดำเนินการทุกเขตเลือกตั้งที่ไม่มี ส.ส. ก่อนส่งให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค มีเลขาธิการพรรคเป็นประธานต่อไป
เราพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งระบบเดิม 350 เขต
ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบก็พร้อม แต่ขอใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ เพื่อจัดการอีก 50 เขตที่เพิ่มขึ้น
“ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง ถือว่าเราเบ็ดเสร็จ เหนือตอนบน ภาคใต้ เป็นหน้าที่ของผมต้องทำงานหนักขึ้น อีสานเหนือ อีสานใต้ เป็นหน้าที่ของผม พี่วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พี่เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ”
ต่อไป ครม.พลังประชารัฐเตรียมลงพื้นที่เป็นกลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสดับตรับฟังชาวบ้าน แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และแก้ปัญหาพร้อมพัฒนาพื้นที่ผ่านนโยบายที่เหมาะสม
...
ขณะเดียวกันเราได้วางทีมกำหนดนโยบายด้านต่างๆ เช่น ด้านความมั่นคง มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีม ด้านการเมือง มีเลขาธิการพรรค รับผิดชอบ
ทีมเศรษฐกิจ มีหัวหน้าทีมระดับมืออาชีพ ไม่ใช่เป็นคนในพรรค ใกล้เปิดตัวในเร็ววันนี้ เพื่อออกแบบนโยบายด้านเศรษฐกิจสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อฟื้นฟูประเทศ แก้ปัญหาปากท้อง
ตั้งเป้าทำให้คนไทยหลุดพ้นจากกับดักความยากจน
อาทิ โครงการพื้นฐานสวัสดิการแห่งรัฐ ดูแลคนด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ โครงการจัดตั้งบริษัทระดับตำบล อำเภอ จังหวัด สู่ระดับภาคและประเทศ รองรับผลผลิตการเกษตร เปิดให้ประชาชนในหมู่บ้านถือหุ้นบริษัทระดับตำบล
ตอนนี้กำลังศึกษา “โมเดลกวางสี” ที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับไทย ซึ่งประกาศเป็นมณฑลพัฒนาประชากรให้หลุดพ้นจากความยากจนได้เมื่อต้นปี 63 โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการช่วยคนไทย เคยประชุมร่วมกับพรรคพลังประชารัฐมารอบหนึ่งแล้ว กำลังจัดสัมมนาร่วมกันอีกครั้งช่วงต้นเดือน ก.ค.64
ทีมการเมือง ถามว่าถูกมองเป็นเลขาธิการพรรคที่ครบเครื่อง ทั้งบุ๋น-บู๊ อำนาจรัฐ ทุนเหลือแต่จะทำอย่างไรให้กระแสพรรคและนโยบายหาเสียงโดนใจประชาชน โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของพรรคจะชูนโยบายพื้นฐานสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ประชาชนเป็นรายเดือน จะหาเงินจากไหนมาใช้ผ่านนโยบายนี้
ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า งบประมาณก้อนนี้จะนำมาจากไหน ทีมเศรษฐกิจของพรรคต้องคิด โดยดูภาพรวมโครงสร้างเศรษฐกิจ อย่างน้อยรายรับและรายจ่ายต้องสมดุลกัน เช่น มีแนวคิดนำรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรดึงกลับมาให้รัฐทำเอง เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว
เพื่อนำรายได้ดูแลผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ
พรรคพร้อมแบบนี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าเสร็จมีโอกาสตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้ตั้งเป้าให้ได้สูงกว่าเดิม คือ 121 เสียง ได้เท่าไหร่เป็นอีกเรื่อง
อาจได้ 150 คน 200 คนตามที่สื่อมวลชนถามก็เป็นไปได้ อย่างน้อยมันต้องได้มากกว่าเดิมเพราะมีประสบการณ์จากการเลือกตั้งซ่อมหลายเขต ไม่พลาดแม้แต่สนามเดียว
ชัยชนะขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ อาทิ ทุกเขตมีทีมงานการเมืองที่ผ่านการเทรนมาแล้ว
การวางยุทธศาสตร์หาเสียง รับผิดชอบตามกลยุทธ์และยุทธวิธีเหมือนที่เราทำ
ไม่ใช่ชูนโยบายอย่างเดียวแล้วพรรคจะชนะการเลือกตั้ง
ยังไม่นับรวม ส.ส.พรรคอื่นที่เตรียมเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ตอนนี้มีจำนวนมาก แค่ไหน ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ไม่อยากพูด แต่ส่วนใหญ่จะมาร่วมอุดมการณ์กับเราเพราะ มีหัวหน้าพรรคเป็นจุดศูนย์รวม ช่วยเหลือทุกคนทุกพรรคที่มา
จุดอ่อนของพรรคพลังประชารัฐอยู่ตรงไหน ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ยอมรับว่าเรามีจุดอ่อน ในสภาวะบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รัฐบาลถูกโจมตีในหลายประเด็น
ไม่รู้อนาคตก่อนการเลือกตั้งกระแสความนิยมของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เพราะภาพของรัฐบาลคือภาพของพรรคพลังประชารัฐ กระแสขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับรัฐบาลทำงาน แต่ยังมั่นใจ ส.ส.เขต 101 คนที่ลงพื้นที่ตลอด
วันนี้เป็นห่วงแค่ไหนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัว ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ไม่ห่วง
“ผมเชื่อมั่นว่าถ้านายกฯ อยู่ครบเทอมก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสภามีความเข้มแข็ง ทุกวันนี้พรรคร่วมแฮปปี้ อาจมีประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินบ้าง ท่านเป็นผู้นำต้องตัดสินใจ เกิดอะไรขึ้นใน ครม. ความรับผิดชอบไม่พ้นนายกฯ ถือเป็นเรื่องปกติ ที่ผู้บังคับบัญชาจะตำหนิลูกน้องบ้างไปคิดเล็กคิดน้อยไม่ได้”
การวางรายชื่อบัญชีนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า นอกจากชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยังมีการเสนอชื่อใครอีก ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ไม่ขอก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ และหัวหน้าพรรคคงคุยกันว่าจะเสริมรายชื่อใครเข้ามาบ้างให้พรรคดูหล่อเหลาขึ้น
ศึกนอกเตรียมพร้อม ศึกในทั้งกลุ่มดาวฤกษ์ กลุ่ม 3 มิตรมีโอกาสย้ายพรรคอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ผมถูกเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรค เพื่อเข้ามาเป็นตัวกลางแก้ปัญหา ไม่ให้เกิดความไม่สบายใจภายในพรรค โดยกลุ่มดาวฤกษ์ได้เข้ามาคุยกับผมแล้วเขามีความมั่นใจว่าผมสามารถนำทัพสู้ศึกใหญ่ครั้งหน้าได้
ส่วนกลุ่ม 3 มิตร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากกว่าเรา ต้องให้เกียรติทุกคน ขอให้ช่วยกันทำงานให้พรรคต่อไปพยายามไม่ให้เกิดกลุ่มก๊วนขึ้นในพรรค
กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ถือเป็นน้องที่ให้การสนับสนุนมาตลอด คุยกันเข้าใจกัน ต่อไปคงต้องพูดคุยกับระดับหัวๆให้เข้าใจในทิศทางเดียวกัน
ถูกมองว่าเตรียมขยับขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ โดยมองไปที่ รมว.แรงงาน ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ด้วยความสัตย์จริง ผมเข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค เพื่อบริหารภายในพรรค แก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดข้อพิพาท บาดหมางใจกัน
ผมพอใจใน ตำแหน่งนี้ พอใจงานที่นายกฯ หรือหัวหน้าพรรคมอบให้ทำ
ส่วนการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ในสถานการณ์การเมืองเวลานี้ คงไม่เหมาะที่จะปรับ ครม. ฉะนั้นไม่เคยคิดแย่งเป็น รมว.แรงงาน เราพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ การเป็นเลขาธิการพรรคใช่ว่าจะต้องเป็นรัฐมนตรีว่าการ ขอทำหน้าที่เลขาธิการพรรคให้ดีที่สุด
ตำแหน่งอื่นๆเป็นเรื่องของอนาคต ไม่มีอะไรแน่นอน
ไปกดดันใครให้เกิดความไม่สบายใจ เราไม่ทำ
ฉะนั้นงานด่วนของแม่บ้านพรรค เริ่มจากทำบ้านให้น่าอยู่ โดยรีโนเวทที่ทำการพรรค ให้มีพื้นที่ใช้สอยสันทนาการ ทำกิจกรรมต่างๆ ชั้นบนอาจทำเป็นโรงแรม มีห้องประชุม ส.ส.ครบ 10 ภาค เพื่อดึงดูด ส.ส.มาอยู่ที่นี่ ต้องรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
และหลังไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ก็จะปัดฝุ่นแผนสัมมนาพรรคที่เคยวางไว้ที่ จ.ภูเก็ต
เพื่อละลายพฤติกรรมทุกกลุ่มให้เป็นพลังประชารัฐ เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง
เพราะคู่แข่งในการเลือกครั้งหน้ายังคงเป็นพรรคเพื่อไทย
ณ ชั่วโมงนี้ทั้งสองพรรคไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ.
ทีมการเมือง