เงินกู้ 5 แสนล้านใครก็ต้องทำ? ในภาวะความจำเป็นของประเทศไม่มีทางเลือกอย่างอื่นรัฐบาลจึงต้องออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท

ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อนำมาดำเนินการใน 3 แผนงาน

1.แก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 วงเงิน 300,000 ล้านบาท

2.ช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยแก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพที่ได้รับผลกระทบ 300,000 ล้านบาท

3.ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบ วงเงิน 170,000 ล้านบาท

แม้ พ.ร.ก.จะมีผลบังคับใช้ไปแล้ว แต่ก็ต้องให้สภารับรองจึงจะถือว่าสมบูรณ์ ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ

ตั้งแต่มีข่าวว่ารัฐบาลออก พ.ร.ก.ผ่าน ครม.ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการแถลงข่าวอย่างชัดเจนนอกจากรู้กันว่าตัวเลข 700,000 ล้านบาทและผลเป็นทางการที่ออกมา ตัวเลขอยู่ที่ 500,000 ล้านบาทเท่านั้น

อีกทั้งสาระของ พ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่ต่างไปจากฉบับก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลได้กู้มา 1.1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่ต่างกัน

รัฐบาลจึงนำ พ.ร.ก.ฉบับนี้มาปัดฝุ่นใหม่และระบุว่าเป็นฉบับ “เพิ่มเติม” ด้วยวงเงินที่ต่างกันก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรใหม่ หรือจะต้องไปชี้แจงอะไรให้มากความฝ่ายค้านก็ปิดประตูตีแมวไม่ได้

การเปลี่ยนตัวเลขเงินกู้จาก 7 แสนล้าน เป็น 5 แสนล้าน ทำให้ตัวเลขดูไม่มากนักและไม่เกินเพดานอีกด้วย

นั่นจะทำให้รัฐบาลมีเงินจับจ่ายใช้สอยได้คล่องขึ้น

พูดง่ายๆว่ามีเงินอยู่ในมือจากการบวกลบคูณหารแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะมีเงินในกระเป๋าไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท

เมื่อวางแผนแยบยลอย่างนี้คงทำให้ฝ่ายค้านเปิดฉากถล่มไม่ได้เต็มหมัด เพราะรัฐบาลสามารถที่จะแจกแจงได้ง่ายขึ้น

เพราะความจำเป็น

เพราะเม็ดเงินไม่มากนัก

...

และยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ร้อยละ 1.5 จากคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 1.5-2.5

ซึ่งฝ่ายค้านคงได้แต่ย้ำเรื่องการใช้จ่ายโดยรวมๆ ไม่มีอะไรที่จะทำให้หวาดเสียวได้ คงทำได้แค่ตรวจสอบการใช้จ่ายว่าโปร่งใส ถูกทิศถูกทางหรือไม่...เท่านั้น

แต่ด้วยเหตุที่โควิด-19 รอบ 3 นี้หนักและรุนแรงทำให้เกิดผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจ จึงยังมิอาจคาดการณ์ได้อย่างถูกต้อง

ที่แน่ๆ ก็คือตัวเลขความเสียหายจะต้องสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่พ้น ดังนั้นจึงต้องบวกตัวเลขความเสียหายล่วงหน้าเอาไว้ด้วย

อะไรที่บอกว่าจะโตแค่นั้นแค่นี้ต้องเตรียมใจไว้ก่อน

ตอนนี้มาลุ้นกันก่อนว่าโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ยังมีตัวเลขพวกติดเชื้อและเสียชีวิตในจำนวนที่ยังไม่มีแนวโน้มลดลงแต่อย่างใด

“วัคซีน” จะต้องจัดการให้พร้อมทั้งระบบทั้งจำนวนและการบริหารจัดการ

วันนี้ไม่มีสิทธิ์โทษประชาชนแล้วนะ...

“สายล่อฟ้า”