“วาระแห่งชาติ” อีกแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำได้ว่าแค่เดือนพฤษภาคมเดือนเดียว ประกาศมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกประกาศให้การฉีดวัคซีน เป็น “วาระแห่งชาติ” ครั้งที่สองประกาศให้การแก้ปัญหาการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ครั้งที่สามที่สี่อาจจะตามมา

นายกรัฐมนตรีประกาศว่า จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อปรับปรุงสมดุลและพัฒนาการบริหารภาครัฐให้โปร่งใส ปลอดการทุจริตประพฤติมิชอบทุกรูปแบบตามหลักธรรมาภิบาล มุ่งสร้างวัฒนธรรมต่อต้านทุจริตให้ได้มาตรฐานสากล

ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะเคยประกาศ ให้การต่อต้านการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ในช่วงที่เป็นรัฐบาล คสช. แต่การทุจริตในวงราชการ หรือแม้แต่ในวงการพระสงฆ์ก็ยังเฟื่องฟู รัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่าจะต้องปฏิรูปประเทศในด้านการเมือง ด้านกระบวนการยุติธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินภายในหนึ่งปี

หมายถึงหนึ่งปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ วันที่ 6 เมษายน 2560 ผ่านมาแล้ว 4 ปี แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นายกรัฐมนตรีนิยมยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มากกว่ารัฐธรรมนูญ ประกาศว่าจะจับมือกับ ป.ป.ช. เพื่อพัฒนาการบริหารภาครัฐให้โปร่งใส ไร้การทุจริต แต่การจับมือกับ ป.ป.ช. ก็อาจมีปัญหา

ผลการสำรวจความเห็นตัวอย่างคนไทยจากทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ พบว่าคนส่วนใหญ่เสื่อมความเชื่อถือสิ้นศรัทธาองค์กรอิสระ ส่วนใหญ่ได้คะแนนสอบตก ทั้ง ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ สอบผ่านแต่ สตง. และผู้ตรวจการแผ่นดิน สาเหตุสำคัญเพราะถูกมองว่าขาดความโปร่งใส ไร้ความอิสระ

สาเหตุสำคัญเพราะองค์กรอิสระถูกแทรกแซง การที่รัฐบาลจะจับมือกับองค์กรอิสระ จึงต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกมองว่า เป็นผู้บังคับบัญชา จะทำให้องค์กรอิสระขาดความเชื่อถือ แต่วิธีการแก้ปัญหาทุจริต ถือว่านายกรัฐมนตรีเดินถูกทาง เริ่มต้นด้วยการปลูกฝังวัฒนธรรม สร้างจิตสำนึกและค่านิยม ไม่ยอมรับการทุจริตโดยสิ้นเชิง

...

ผลการสำรวจความเห็นประชาชนเมื่อนานมาแล้ว พบว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับรัฐบาล แม้จะทุจริตโกงกิน ขอแต่เพียงให้ประชาชนได้ประโยชน์ ต้องกินแบ่ง อย่ากินรวบ รัฐบาลจะต่อยอดวัฒนธรรมอำนาจนิยม หรือปลูกฝังประชาธิปไตย จะส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม ความโปร่งใส หรือจะส่งเสริมระบบอุปถัมภ์ เพื่อนพ้องน้องพี่.