ก็ได้ผลครับ แต่จะได้ผลแค่ไหนยังไม่รู้ เมื่อ คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย เชิญ 40 ซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ไทยและต่างชาติ ประชุมกดดัน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เร่งจัดหาวัคซีนที่ล่าช้าและไม่เพียงพอให้เพียงพอฉีดให้คนไทย 70% ประเทศไทยจะได้เปิดกิจกรรมเศรษฐกิจเสียที ขืนรอ “รัฐบาลเต่าคลาน” ทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆมีหวังเจ๊งกันทั้งประเทศ

ที่ว่าได้ผลก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ สั่ง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่คนไทยไม่ค่อยได้ยินชื่อเท่าไหร่ ไปเจรจาซื้อ วัคซีนสปุตนิก ไฟว์ จาก รัสเซีย ซึ่ง นายดอน ก็ได้สั่ง สถานทูตไทยที่กรุงมอสโก ไปเจรจาก็ได้ผล รัสเซียยินดีขายวัคซีนให้ไทย นายกฯก็โพสต์ลงเฟซบุ๊กเสียใหญ่โตว่าได้รับคำตอบจากรัสเซียว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยินดีสนับสนุนรัฐบาลไทย เรื่องแค่นี้ไม่น่าถึงผู้นำรัสเซีย

นายดอน ยังได้โทรศัพท์คุยกับ นายหวัง อี้ มุขมนตรีแห่งรัฐรัฐมนตรีต่างประเทศจีน เพื่อขอซื้อวัคซีนซิโนแวคจากจีนเพิ่ม งานนี้อภิมหามิตรจีนโชว์ฟอร์มใหญ่ทันที นายหวัง อี้ บอกว่า จีนยินดีที่บริจาควัคซีนซิโนแวคให้ไทย 500,000 โดส ที่น่าทึ่งก็คือ นายดอน โทรศัพท์คุยกับ นายหวัง อี้ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน เช้าวันเสาร์ที่ 24 เมษายน สถานเอกอัครราชทูตจีน ก็โพสต์ข่าวลงในเฟซบุ๊กของสถานทูตว่า วัคซีนซิโนแวคจีน 500,000 โดส ที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ไทยมาถึงไทยแล้ว โดยมีภาพถ่ายการขนวัคซีนลงจากเครื่องบินของสายการบินจีน โดยไทยไม่ต้องส่งเครื่องบินไปรับให้เอิกเกริกเหมือนครั้งที่แล้ว

เห็นไหมครับ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดี ที่ผมพร่ำเขียนบอก ให้นายกฯคบเพื่อนผู้นำต่างประเทศให้มากๆ เพื่อผลประโยชน์ของชาติ เป็นอย่างไร ความจริง ท่านหวัง อี้ สนิทกับไทยสมัยที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกฯ เมื่อ นายดอน ขึ้นเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ แต่เมื่อโทร.ไปหาเขาก็ตอบรับอย่างรวดเร็ว

...

คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข ก็เชิญ ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ไปคุยเรื่อง วัคซีนไฟเซอร์ เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยน่าพอใจ ไฟเซอร์ตอบว่า พร้อมที่จะจัดหาวัคซีนให้ไทย 10 ล้านโดส แต่ยังไม่สามารถกำหนดเวลาส่งที่แน่ชัดได้ อย่างนี้ได้ก็เหมือนไม่ได้ ไม่บอกเวลาส่งก็วางแผนฉีดวัคซีนไม่ได้ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเจรจาวันที่ 22 เมษายน ไม่ใช่ครั้งแรก ได้คุยกันมานานแล้ว สรุปไทม์ไลน์ไม่เปลี่ยน (ราวไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ของปีนี้) แต่เงื่อนไขเปลี่ยนคือได้ราคาที่ถูกลง

นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจค่ำวันศุกร์ รายงานการจัดหาวัคซีน ซึ่งไม่มีอะไรใหม่ ข้อมูลใหม่น่าจะเป็นการจัดหาวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยนายกฯบอกว่าจะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้ครบ 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน 50 ล้านคน มากกว่าเดิมที่เคยประกาศไว้

แต่มาถึงวันนี้ วัคซีน 100 ล้านโดสไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา สองบริษัทวัคซีนยักษ์ใหญ่สหรัฐฯระบุว่า การฉีดวัคซีนคนละ 2 เข็ม มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ทุกคนที่ได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว เมื่อครบ 6 เดือนต้องไปฉีดเข็มที่ 3 เพื่อ Boost (เพิ่มภูมิต้านทาน) ให้ยืดไปอีก 6 เดือน เป็น 12 เดือน เมื่อฉีดครบ 3 เข็มจะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้นานถึงหนึ่งปี เหมือนวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

ก็อย่างที่ผมเรียนนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ไปหลายครั้ง อย่าไปขี้เหนียวเลยครับ อย่าเอาชีวิตคนไทยไปเสี่ยง วัคซีนมีเท่าไหร่ซื้อให้เกินพอ จะใช้เงินเป็นแสนล้านก็ต้องใช้ น้อยกว่าเงินที่นักการเมืองคอร์รัปชันไปในแต่ละปีเสียอีก กู้มาแจกเป็นล้านล้านยังแจกได้ เอาเงินไปซื้อวัคซีนมาช่วยชีวิตคนไทยและฟื้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ ทำเป็นขี้เหนียวไปได้.

“ลม เปลี่ยนทิศ”