ออกอาการฉุนเฉียว สะท้อนภาวะอารมณ์ในจิตใจ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เห็นนักข่าวสาวนั่งไม่เรียบร้อยระหว่างแถลงข่าว เลยเอ่ยปากบอกให้เอาขาลง อย่านั่งไขว่ห้าง พร้อมถอนหายใจหน้ามุ่ย
ไม่รู้ว่าขุ่นเคืองจากประเด็นการจัดเก็บรายได้ประเทศ ที่กระทรวงการคลังรายงานภาพรวมเศรษฐกิจเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า ส่วนงบประมาณที่มีอยู่ก็ต้องเอาไปทุ่มแก้ปัญหาโควิด-19 หรือเปล่า
ข่าวว่า “บิ๊กตู่” สั่งให้ไปศึกษาการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT จากที่เก็บ 7% มานานหลายรัฐบาล ไม่มีใครกล้าแตะ เพราะแรงเสียดทานสูงลิ่ว
ไม่ทันไรฝ่ายค้านก็ออกมาเย้ยหยาม นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย อัดรัฐบาลหารายได้ไม่เป็นแล้วยังขูดรีดคนจนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก การขึ้นภาษียิ่งทำให้กำลังซื้อลดลง เพราะราคาสินค้าจะถีบตัวสูงขึ้น
ก็ไม่รู้รัฐบาลจะเอาจริงหรือเปล่า จะกล้าหรือไม่ แต่สภาพเงินคงคลังมันร่อยหรอบักโกรกเต็มที
นโยบายรัฐสวัสดิการ ทั้งคนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน เราเที่ยวด้วยกัน กระตุ้นเศรษฐกิจภายในพอได้อยู่ แต่ดูทรงแล้วไม่พอ โรดแม็ปเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามา จึงต้องพิจารณากันเร่งด่วน
เริ่มทันทีตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไป เน้นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักก่อน ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย ชลบุรี (พัทยา) และเชียงใหม่ จากนั้นก็ทยอยไปเรื่อยๆทีละไตรมาส แล้วเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 ม.ค.2565
อั้นไม่ไหวแล้ว ปิดประเทศต่อไปเฉาตายแน่
“บิ๊กตู่” จะสานฝันอยู่ต่อลากยาว ด้วยกลไกกติการัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋กฎหมายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่สนเสียงคนนินทา ดูถูก ก็ทำได้สบายอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ งานช้างก็คือการประคองภาวะเศรษฐกิจ
...
ธุรกิจเอสเอ็มอีปิดกิจการ คนตัวเล็ก ตัวน้อย กำลังจะอดตาย บ้าตาย
จะลากถูอยู่กันไปครบเทอม 4 ปี หรือถ้าเลือกตั้งแล้ว “บิ๊กตู่” ได้กลับมาเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลอีก แต่ประเทศก็ยังซบเซาเหงาหงอย เศรษฐกิจถดถอยเหมือนเดิม
คงถูกตั้งคำถามจนรำคาญหูว่ากลับมาทำไม
ดังนั้น ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า โจทย์ยากก็คือกู้วิกฤติเศรษฐกิจ กระตุกความเชื่อมั่น ถ้ายัง “โชว์ห่วย” ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ ก็ป่วยการที่จะเดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติสืบอำนาจ 5 ปี 10 ปี
จมอยู่กับภาวะขาลงแต่ทู่ซี้อยู่ต่อ ทั้งม็อบเด็ก ม็อบผู้ใหญ่ มาเต็มแน่
เหลือบไปดูหมากเกมการเมืองในกระดาน ทหารเฒ่า 3 ป. ตีรวมกินรวบหมด ถึงขนาดวางแผนช็อตต่อไป ด้วยการตั้งพรรคแตกพรรค สืบอำนาจไว้แล้ว
แถมเบี่ยงตัวหลบได้แบบเนียนๆ ถีบ “เสี่ยฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย ออกมาล่อเป้ากลายเป็นตำบลกระสุนตกแทน
ช่วงหลังออกงานบ่อยจนเป็นข่าวใหญ่ คิวไปร่วมงานวันเกิดมารดา “เสี่ยโจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกปั่นราคามองไกลถึงการดึงไปเป็นโต้โผพรรคใหม่
งานนี้แว่วว่า “ปลัดฉิ่ง” ไม่สบอารมณ์เหมือนกัน
ล่าสุด พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ลือกันว่าเป็นฐานรองรับผู้มีอำนาจ ผ่านการรับรองจาก กกต.เรียบร้อยแล้ว โลโก้สวยงามความหมายคือหลอมรวมประชาชนเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ศรัทธาสูงสุดต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
จังหวะก้าวตามกติการัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋มีชัย ต้องแตกแบงก์พัน แบงก์ร้อย ถึงจะได้เปรียบ สุมหัวกันอยู่พรรคเดียวหัวติดเพดานโตไม่ได้ แม้แต่พรรคเล็ก พรรคน้อย ยังถูกปัดเศษได้ตำแหน่ง ส.ส.
พิลึกพิลั่นพิกลพิการ ก็ต้องเล่นกันไปตามกติกาเบี้ยวๆ
คนการเมืองรู้ทางกันหมด พาเหรดแยกค่ายไปตั้งพรรคกันเพียบ พรรคกล้า ของนายกรณ์ จาติกวณิช พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเส้นทางใหม่ ของนายจาตุรนต์ ฉายแสง
ทีม 4 กุมารที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ เป็นคอนดักเตอร์ ก็จ่อตั้งพรรคใหม่เหมือนกัน
ตามจังหวะมวยเมาหมัดรัฐบาลอาการไม่ค่อยดี
ไม่แน่ว่าช่วงปลายปีหลังจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 เสร็จ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเรียบร้อย อาจสวมวิญญาณซานตาคลอสแจกแหลกทิ้งทวน หาแต้มล่วงหน้า แล้วประกาศยุบสภา
เลยเห็นภาพนักการเมืองต้องเร่งมือทำพรรค ตั้งสาขา หาสมาชิก กันอุตลุด
ใครทำไม่ทันเสี่ยงแพ้ฟาวล์ เสียของ.
ทีมข่าวการเมือง