ศาลปกครองกลาง นัด 2 เม.ย.ชี้ ปมคลังสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้ค่าเสียหายทุจริตจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ขณะที่ 5 ผู้ต้องหาคดีระบายข้าว ลุ้น ต้องชดใช้ 2 หมื่นล้าน หรือไม่ 29 มี.ค.นี้


วันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัฐฐิติพงศ์ หรือ อัครพงศ์ ทีปวัชระ หรือช่วยเกลี้ยง อดีต เลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ และอดีตผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะทำงานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 กรณีขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่สั่งให้ทั้งหมดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุจริตโครงการรับจำนำและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ในวันจันทร์ที่ 29 มี.ค. เวลา 10.00 น.

คดีนี้ปัจจุบัน ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ถูกจำคุกอยู่ตามคำพิพาษาศาลฎีภาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตโครงการดังกล่าว ซึ่งการฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลปกครองกลาง เกิดขึ้นหลังกระทรวงพาณิชย์มีคำสั่งที่ 457 ลงวันที่ 19 ก.ย. 59 สั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยให้ นายบุญทรง ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1,770 ล้านบาท, นายภูมิ จำนวน 2,300 ล้านบาท และ นายมนัส, นายอัฐฐิติพงศ์, นายทิฆัมพร เป็นเงินจำนวนรายละ 4,011 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จากกรณีจงใจกระทำละเมิดให้ราชการเสียหาย จากการนำข้าวตามสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐมาเวียนขายให้ผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศ

...

นอกจากนี้ ในวันที่ 29 มี.ค. ศาลปกครอง ยังจะออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 2 คน ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 9 คน กรณีขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค.59 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 3.5 หมื่นล้าน จากเหตุขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่ เป็นทำให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองรวม 4 คำฟ้อง ซึ่งศาลได้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียว และในวันดังกล่าว ศาลจะได้มีการสรุปข้อเท็จจริงในคดีให้ผู้รับมอบอำนาจของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้รับทราบ รวมทั้งให้ตุลาการผู้แถลงคดีจะได้แถลงความเห็นส่วนตัว ที่ไม่มีผลผูกพันต่อการพิจารณาวินิจฉัยคดีขององค์คณะตามขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งนัดอ่านคำพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 2 เม.ย.เวลา 09.00 น.