มติ ครม. เห็นชอบปรับหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสของ “กองสลาก” เป็นรัฐวิสาหกิจกลุ่มที่ 2 จัดสรรโบนัสให้พนักงานเมื่อมีกำไร เผย ผลประเมินระดับดีที่สุด อาจได้ 8 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง

วันที่ 26 ม.ค. 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งจะเชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานตามระบบประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ

ทั้งนี้ ปรับให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มที่ 2 ประเภทจัดสรรโบนัสให้พนักงานได้เมื่อมีกำไร (จากเดิมที่เป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มที่ 5 คือประเภทที่ได้จ่ายโบนัสพนักงานแบบคงที่) โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่ผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นต้นไป

สำหรับผลการประเมินแบ่งเป็นดังนี้

  • ระดับ 5 คะแนน หรือดีเยี่ยม จะได้รับวงเงินเพื่อจัดสรรโบนัสร้อยละ 11ของกำไร แต่ไม่เกิน 8 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง
  • ระดับ 4 คะแนน หรือระดับดีมาก จะได้รับการจัดสรรโบนัสร้อยละ 10 ของกำไร แต่ไม่เกิน 6 เท่าของเงินเดือน
  • ระดับ 3 คะแนน หรือดี จะได้รับวงเงินจัดสรรโบนัสร้อยละ 9 ของกำไร แต่ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน
  • ระดับ 2 คะแนน หรือพอใช้ จะได้รับเงินจัดสรรโบนัสร้อยละ 8 ของกำไร แต่ไม่เกิน 4 เท่าของเงินเดือน
  • ระดับ 1 คะแนน หรือปรับปรุง จะได้รับวงเงินจัดสรรโบนัสไม่เกินร้อยละ 7 ของกำไร แต่ไม่เกิน 2 เท่าของเงินเดือน

...

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานเพิ่มเติมว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานด้านการเงินที่ดีมาโดยตลอด เมื่อพิจารณาผลการดำเนินการย้อนหลังไป 5 ปี (2558-2562) พบว่ามีกำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 3,451 ล้านบาท หากเปรียบเทียบระบบเมื่อปี 2560-2562 พนักงานจะได้รับโบนัส 3.75 เท่าของเงินเดือน ซึ่งเป็นระบบคงที่ กรณีเป็นการพิจารณาตามระบบใหม่ในปี 2560 พนักงานจะได้โบนัส 5.5 เท่าของเงินเดือน ปี 2561 จะได้โบนัส 6 เท่าของเงินเดือน

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของโบนัสพนักงานและลูกจ้างที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 62 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายนี้จะไม่กระทบต่อกำไรสุทธิและการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดินแต่อย่างใด.