“เพื่อไทย” บลัฟแหลกรัฐจ่ายเยียวยาอืดไม่ทันโรคโควิดระบาด เฉ่งเลือกปฏิบัติเปย์เฉพาะกลุ่ม เกทับแนะจ่ายหัวละ 5,000 นาน 3 เดือน พื้นที่ควบคุมสูงสุดรับเลย 6,000 บาท 3 เดือน ดันตั้งกองทุนสินเชื่อเอสเอ็มอี 1 ล้านล้าน อัดฉีดนายจ้างประคองจ้างงาน 6 เดือน ให้พักหนี้ 6 เดือน หยุดทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย “สมคิด” เครื่องร้อน ล่าชื่อ ส.ส.ยื่นซักฟอก “ธีรรัตน์” รอขย่มไม่สน “บิ๊กป้อม” โอ่รู้จักกันดีกับ ส.ส.ฝ่ายค้าน โซลาร์เซลล์ กอ.รมน.กลิ่นโฉ่ “บิ๊กตู่” เมิน “ศรีสุวรรณ” ร้อง สตง.สอบแผงโซลาร์เซลล์ อ.อมก๋อย แพงเว่อร์ 45 ล้าน “ตรีรัตน์” เช็กราคาโหดประมูลพุ่งเกือบเท่าตัว ชง กมธ.ป.ป.ช.สแกนฮั้วประมูลหรือไม่ “อัศวิน” ฟุ้งฟิตเต็มร้อย เผย “บิ๊กแป๊ะ” ยกหูถามลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ต่อหรือไม่ อุบไต๋แทงกั๊กยังไม่ตัดสินใจ

การใช้งบประมาณของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยังคงเป็นประเด็นที่พรรคฝ่ายค้านและภาคประชาชน เกาะติดตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งในแง่ความล่าช้าไม่ทันต่อสถานการณ์ และความโปร่งใสในการเบิกจ่าย ล่าสุดมีการยื่นตรวจสอบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จัดซื้อจัดจ้างติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในราคาแพงเกินจริง

...

“บิ๊กตู่” เมิน “ศรี” ยื่นสอบโซลาร์เซลล์ กอ.รมน.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขอให้ตรวจสอบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จัดซื้อจัดจ้างติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 45 ล้านบาท อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ว่า เรื่องของเขาก็ไปตรวจสอบ ทุกคนมีสิทธิร้องเรียนได้หมดตามกฎหมาย แต่ให้ไปดูข้อเท็จจริง อย่าเพิ่งตัดสินใจว่ามันผิดหรือว่าถูก ตนก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ทุกคนพูดได้หมด นี่คือประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ แล้วไปห้ามใครพูดหรือไม่ ห้ามได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ห้าม อยากจะพูดอะไรก็พูดไป อยากจะไปฟ้องใครก็ฟ้องไป ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน แต่ขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลกับนายกฯบ้าง เราก็ไม่อยากไปใช้กฎหมายอะไรต่างๆให้มันเดือดร้อนกันไปทั้งหมด บางทีต้องรักษาสิทธิส่วนบุคคลของตนบ้าง ฝ่ายกฎหมายเขาพิจารณาดำเนินการเป็นรายๆไปอยู่แล้ว

พท.เช็กราคาโหดข้องใจฮั้วหรือไม่

นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 3 ได้เปิดเผยผลการประกวดราคาจ้างติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ในโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ว่า ได้นำสเปกงานดังกล่าวให้บริษัทติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ชั้นนำเสนอเทียบราคาเข้ามา พบว่าได้ราคาถูกกว่าที่ กอ.รมน.ภาค 3 ประมูลถึงเกือบเท่าตัว เมื่อเข้าไปตรวจสอบบริษัทที่เป็นคู่เทียบในใบเสนอราคาที่ทาง กอ.รมน.เปิดเผย พบว่าบางบริษัทเพิ่งจดทะเบียนเมื่อปี 2562 และไม่ได้เป็นผู้รับจ้างผลิตพลังงานโซลาร์ด้วยซ้ำ จึงไม่แน่ใจว่างานนี้โปร่งใสหรือมีการฮั้วประมูลหรือไม่

ชง กมธ.ป.ป.ช.สอบหวดแพงเกินจริง

นายตรีรัตน์กล่าวอีกว่า จากที่ตนได้ให้บริษัทโซลาร์เสนอราคาเข้ามา ราคาต่อเมกะวัตต์นั้นอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์รวมติดตั้ง แต่งานดังกล่าวติดตั้งแค่ 210 กิโลวัตต์เท่านั้น แบ่งเป็น 5 โครงการย่อยพร้อมแบตเตอรี่ เสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้า โดยราคาที่สืบมาได้ประเมินให้อุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ที่แพงที่สุด แต่ราคาอยู่แค่ประมาณ 20-25 ล้านบาทเท่านั้น จึงตั้งข้อสังเกตถึงราคาที่แพงเกินความจริง และจะนำเรื่องดังกล่าวเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานกรรมาธิการ เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ภายในการประชุมที่จะถึงในสัปดาห์หน้า

“ธนกร” อัด พท.ดีแต่เอาชนะการเมือง

ส่วนกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการเยียวยาค่า ครองชีพให้กับประชาชน บรรเทาผลกระทบโควิด-19 ระยะเร่งด่วน โดยจ่ายเงิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน นาน 2 เดือน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ขณะที่ประชาชนฝากขอบคุณนายกฯ ที่ให้กระทรวงการคลังหารือเตรียมจ่ายเงินเยียวยาค่าครองชีพให้กับประชาชน ออกมาตรการต่างๆมาเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ในระยะเร่งด่วน แต่ผิดหวังกับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก ที่ออกมาโจมตีรัฐบาลรายวัน สะเปะสะปะด่าทุกเรื่อง การประกาศ ล็อกดาวน์ประเทศในการระบาดรอบแรกของโควิด-19 พรรคเพื่อไทยก็หาว่าล็อกดาวน์ทำชาวบ้านเดือดร้อน พอมาครั้งนี้รัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ก็บอกว่าเลี่ยงกฎหมาย เพื่อไม่ต้องการเยียวยา จ่ายเงินเยียวยา 5 พันบาท 3 เดือน ระบาดระลอกแรกหาว่าดีแต่กู้เงินมาแจก เก่งแต่แจกเงิน พอระบาดระลอกใหม่ พรรคเพื่อไทยมาเสนอให้จ่ายเงินเยียวยาอีก พอรัฐบาลมอบให้กระทรวงการคลังหารือเตรียมจ่ายเงินเยียวยา 3,500 บาท 2 เดือน บอกว่ารัฐบาลลอกการบ้านเก่า พรรคเพื่อไทยวันๆคิดแต่จะเอาชนะทางการเมือง พูดกลับไปกลับมาหาสาระไม่ได้ แกนนำหลายคนถึงได้ลาออก

ซัดโฆษก พท.หยุดตำหนิ รบ.รายวัน

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอโฆษกพรรคเพื่อไทยหยุดความพยายามสื่อสารโจมตีรัฐบาลรายวัน ในสถานการณ์โควิด-19 ควรแยกแยะระหว่างผลทางการเมืองกับความเดือดร้อนของประชาชน แล้วร่วมใจสื่อสารสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน เป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานที่เหน็ดเหนื่อยกับการทำหน้าที่อย่างทุ่มเท และเสียสละ ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 หาแนวทางเยียวยาให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทยอยออกมาตรการต่างๆอย่างต่อเนื่อง จึงอยากขอให้โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดใจรับในผลงานรัฐบาลบ้าง ซึ่งเห็นได้จากผลสำรวจหลายครั้งประชาชนพอใจในหลายโครงการของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่การลอกการบ้านเดิม สิ่งใดที่เคยทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชน เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลต้องนำมาพิจารณาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น การโจมตีรายวัน มีแต่จะทำให้เกิดการสับสนและเข้าใจผิดให้กับประชาชน รวมทั้งยังเป็นต้นตอความขัดแย้ง ขณะนี้ประชาชนลำบากและเครียดกับปัญหาโควิด-19 และผลกระทบทางเศรษฐกิจมากพอแล้ว อย่าเพิ่มปัญหาทางการเมืองซ้ำเติม เพิ่มความเครียดให้กับประชาชนขึ้นอีกเลย

พท.บลัฟให้จ่ายเยียวยา 5 พัน 3 เดือน

วันเดียวกัน คณะกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยกำหนดวงเงิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน 2 เดือน และมาตรการอื่นๆ เห็นว่าไม่เพียงพอและไม่สามารถเยียวยาผลกระทบต่อประชาชนได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดมาตรการเร่งด่วน 5 เรื่องนี้ทันที 1.กลุ่มแรงงานนอกระบบที่ไม่มีประกันสังคม ทั้งอาชีพอิสระ ลูกจ้าง กลุ่มเปราะบาง และเกษตรกร ให้แบ่งจ่ายเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน แก่พื้นที่นอกเขตควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐ ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้แบ่งจ่ายเดือนละ 6,000 บาท 3 เดือน 2.ตั้งกองทุนสินเชื่อเพื่อ SMEs ผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 1 ล้านล้านบาท โดยไม่ผ่านกลไกสถาบันการเงินพาณิชย์ 3.มาตรการคงการจ้างงานแรงงานในระบบประกันสังคม ภาครัฐสนับสนุนเป็นระบบขั้นบันได 50-60% ตามโซนความรุนแรง เป็นเวลา 6 เดือน ภาครัฐสนับสนุนค่าจ้างผ่านผู้ประกอบการไปที่ลูกจ้าง เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน ไม่ใช่แบบที่รัฐบาลเยียวยาผ่านระบบประกันสังคม เป็นการแก้ปลายเหตุ 4.พักหนี้ผู้ประกอบการรวมถึงเกษตรกร ไม่ต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย ธนาคารหยุดคิดดอกเบี้ย 6 เดือน 5.ลดภาระประชาชน อุดหนุนภาระดอกเบี้ย สำหรับผู้ผ่อนยานพาหนะ ที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบ 6 เดือน

เฉ่งเลือกปฏิบัติเยียวยาเฉพาะกลุ่ม

นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลออกมาตรการเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจ่ายเงิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน นาน 2 เดือนว่า มาตรการที่รัฐออกมาช้ามาก ที่ผ่านมาประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสจากมาตรการรัฐ แต่รัฐบาลประวิงเวลาเยียวยาประชาชน ไม่สอดคล้องความเป็นจริง ทั้งที่รัฐบาลอ้างมีงบประมาณเพียงพอ ควรดำเนินการรวดเร็วกว่านี้ การเยียวยาครั้งนี้ขอย้ำว่า ประชาชนทุกคนต้องได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล เพราะทุกคน คือ กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับเชื้อจากใครก็ได้ สามารถติดเชื้อได้ทุกคน ดังนั้นมาตรการรัฐบาลต้องครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่ใช่บางกลุ่ม การลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการเราชนะ เป็นการเยียวยาที่ไม่ตอบโจทย์ เลือกปฏิบัติชัดเจน ยังมีคนไทยอีกหลายล้านคนที่ขาดการเข้าถึงเทคโนโลยี ความยุติธรรมในยามวิกฤติคือ การเยียวยาคนอ่อนแอให้ได้รับสิทธิทุกคน เสมอกัน คนแก่ คนตกงาน ผู้เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี รัฐมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว คนไทยทุกคนต้องได้รับการเยียวยาจากรัฐ

“ธีรรัตน์” จ่อขย่มปล่อยงบฯช่วย ปชช.ช้า

น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าได้เตรียมเนื้อหาจะอภิปรายปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2 ที่เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปล่อยให้มีแรงงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย จนเชื้อแพร่ระบาด รวมถึงการปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบทุกวันนี้ รวมถึงการใช้จ่ายงบฯในการแก้ปัญหาที่รัฐบาลกู้มา 2 ล้านๆ จนถึงทุกวันนี้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างล่าช้า

ไม่สน “บิ๊กป้อม” รู้จักกันดี ส.ส.เพื่อไทย

“มีข้อมูลที่ชวนสงสัยว่าการเบิกจ่ายงบฯที่ล่าช้านี้อาจมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ใช้จ่ายงบฯยังจัดสรรกันไม่ลงตัว ทำให้การช่วยเหลือประชาชนล่าช้าตามไปด้วยหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้ได้นำเสนอไปยังพรรคเพื่อไทยแล้ว เพื่อให้นำไปพิจารณารวมกับข้อมูลของ ส.ส.คนอื่นๆ ว่ามีประเด็นใกล้เคียงกันซ้ำซ้อนกันหรือไม่ เพื่อให้พรรคกำหนดผู้อภิปราย ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ระบุ ส.ส.ฝ่ายค้านรู้จักกันทั้งนั้น ยืนยันการ ทำหน้าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทำอย่างเต็มที่ ไม่เห็นแก่คนรู้จัก จะสำคัญกว่าการตรวจสอบผลประโยชน์ประชาชนแน่นอน” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

เครื่องร้อนล่าชื่อ ส.ส.ยื่นญัตติซักฟอก

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้เตรียมการไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว สัปดาห์หน้าพรรคเพื่อไทยจะเริ่มล่าชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่คาดว่าจะยื่นได้ก่อนสิ้นเดือน ม.ค. ส่วนเรื่องที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจหลักๆจะมีเรื่องความผิดพลาดการแก้ปัญหาสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ส่วนประเด็นอื่นๆกำลังอยู่ระหว่างให้ ส.ส.ส่งข้อมูลมาให้พรรค จะมีทีมคอยกลั่นกรองข้อมูลว่าประเด็นใด จะมีน้ำหนักเพียงพอนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ในวันที่ 15 ม.ค.พรรคฝ่ายค้านจะหารือกัน เพื่อกำหนดกรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีเรื่องใดบ้าง

“พิชัย” ฉะคนทิ้งพรรคอย่าอกตัญญู

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวภายในพรรคเพื่อไทยปั่นป่วนว่า ยืนยันว่าพรรคเข้มแข็งไม่ได้ปั่นป่วนตามที่มีกระแสข่าวโจมตี น่าเกิดจากการสร้างกระแสของกลุ่มคนที่ออกจากพรรคไปแล้วให้พรรคดูสั่นคลอน อย่าคิดอกตัญญูให้ร้ายพรรค ที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากภาวะผู้นำและยุทธศาสตร์การบริหารที่ผ่านมาไม่สร้างความหวังให้ประชาชน ความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ตกต่ำสุดๆแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำตัวเองให้เป็นทางเลือกของประชาชนได้ จึงต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้นให้เป็นความหวังของประชาชนได้ อยากให้รู้จักกตัญญูรู้คุณ มีหิริโอตตัปปะ อย่าปากพูดอย่างแต่กลับกระทำอีกอย่าง ถ้าหวังดีจริงควรจากกันด้วยดี อย่าคิดจะมาตกปลาในบ่อของพรรคน่าละอายมาก ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้แตกสาขา

“วรชัย” เตือนไปแล้วอย่าทำร้ายบ้านเก่า

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิดทุกองค์กรต้องเปลี่ยนแปลง เหมือนต้นไม้ผลิใบใหม่อยู่ทุกปี พรรคเพื่อไทยก็เช่นเดียวกัน คนรุ่นเก่าออกไปคนรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ ความคิดล้าหลังต้องหมดไปความคิดใหม่มาแทนที่ สำคัญสุดพรรคเพื่อไทยมีจุดแข็ง 2 เรื่องคือ จุดยืนประชาธิปไตยมั่นคงและผู้ใหญ่พรรคมีความรู้เรื่องเศรษฐกิจและความรู้รอบด้าน จึงมีคำถามว่า การนำที่ผ่านมาก่อนเดินไปข้างหน้า อยู่กับที่หรือถอยหลัง หลายคนคงมีคำตอบในใจ ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งการนำของคน นำที่น่าเชื่อถือและมีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่บริหารพรรค เพื่อนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไปแน่นอน คนที่ออกไปไม่สามารถนำพรรคไปสู่ชัยชนะได้ ต้องยอมรับให้คนอื่นที่มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่แทน เมื่อออกไปแล้วขอให้คิดถึงอดีตว่าพรรคเพื่อไทยเป็นบ้านที่เคยอยู่ อย่าหันหลังมาทำร้ายพรรค

ผวาสภาแหล่งแพร่เชื้อประชุม 20 ม.ค.

อีกเรื่อง นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 20 ม.ค. ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ว่า ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่จะสภาฯจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ เพราะเป็นศูนย์รวมของ ส.ส.และผู้ติดตาม 77 จังหวัด รวมถึงจังหวัดที่เป็นพื้นที่กลุ่มเสี่ยงสูงสุด แต่จำเป็นต้องเปิดสภาฯ เพราะถ้าไม่เปิดเสี่ยงถูกด่าจากคนไม่เข้าใจ จำเป็นต้องวางมาตรการป้องกันให้เข้มงวดที่สุด ไม่ให้สภาฯเป็นแหล่งรวมเชื้อโควิด มาตรการที่วางไว้เบื้องต้นคือจะเปิดให้ใช้ทางเข้าออกสภาฯน้อยที่สุด ส่วนทางเข้าอาคารต่างๆที่เป็นบันไดหนีไฟจะปิดไม่ให้ใช้ ห้องประชุมสภาฯจะให้นั่งเว้นระยะห่าง 2 ที่นั่ง ส่วนห้องประชุม กมธ.ต่างๆจะให้เฉพาะ ส.ส.และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น

สั่ง ส.ส.งดดูงานต่างจังหวัด

นายอนันต์กล่าวต่อว่า การดูงานต่างจังหวัดให้งดไว้ก่อน ห้องอาหารของ ส.ส. ให้ใช้เฉพาะจาน ชาม ช้อนพลาสติก แต่ละโต๊ะมีฉากพลาสติก ให้นั่งโต๊ะละไม่เกิน 4 คน รวมถึงโรงอาหารทั่วไปจะขอความร่วมมือจากร้านค้าให้ใช้เฉพาะจาน ชาม ช้อนพลาสติกเช่นกัน ในวันที่ 20 ม.ค. กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎรจะเชิญ ผอ.ทุกสำนักในสภาผู้แทนราษฎร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการควบคุมโรค และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขมาร่วมหารือถึงวิธีการป้องกันการควบคุมเชื้อโควิดในสภาฯด้วย เมื่อสภาฯจำเป็นต้องเปิดต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด

ส.ว.กำหนดเปิดประชุมปกติ 18 ม.ค.

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.ในฐานะโฆษกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า ส.ว.จะเปิดประชุมตามวาระปกติในวันที่ 18-19 ม.ค. เพื่อพิจารณาระเบียบวาระที่ค้างอยู่และเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ โดยกำชับให้ ส.ว.ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น ซึ่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา จะเรียกประชุมวิปวุฒิสภา วันที่ 14 ม.ค.นี้ เพื่อหารือเรื่องระเบียบวาระที่จะหารือ และทบทวนมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยต่างๆ

21 ม.ค.กมธ.แก้ รธน.เดินเครื่องต่อ

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย พัฒนา ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม กล่าวว่า กมธ.จะกลับมา หารือตามระเบียบวาระปกติวันที่ 21-22 ม.ค. จะหารือปรับตารางทำงานเล็กน้อย ต้องเร่งกันพอสมควรเพื่อให้นำเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ. ตามข้อบังคับไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด หากพิจารณาสมัยประชุมสามัญนี้ไม่ทัน อาจพิจารณาสมัยประชุมวิสามัญได้ ยังมีประเด็นค้างพิจารณาคือ เนื้อหาการได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ที่ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านยังเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้น การหารือวันที่ 21 ม.ค. จะเสนอต่อที่ประชุมให้รับฟังความเห็นตัวแทนที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และตัวแทนกลุ่มคนรุ่นใหม่ ถึงวิธีการคัดเลือกบุคคลให้เป็น ส.ส.ร. เมื่อพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จะต่อด้วยการพิจารณาคำขอแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภา 103 คน

สภาโยน กจว.ชี้ขาดงดค่าปรับซิโน–ไทย

นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาฯ ในฐานะประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวว่า สัปดาห์นี้สำนักงานเลขาธิการสภาฯจะส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (กจว.) กรมบัญชีกลาง ให้พิจารณากรณีบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ขอใช้สิทธิลดหรืองดค่าปรับกรณีก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เสร็จไม่ทันตามกำหนดวันที่ 31 ธ.ค.63 อ้างถึงผลกระทบ อาทิ การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่กระทบการเดินทางแรงงานจากพื้นที่ จ.นนทบุรีเข้าสู่ กทม.กว่า 700 คน การเสนอขอขยายเวลาจัดทำป้ายข้อความที่ใช้ติดตั้งภายในอาคารรัฐสภา เช่น ป้ายหน้าห้องกรรมาธิการ ป้ายหนีไฟกว่า 4,000 รายการ ติดปัญหานำเข้าวัสดุจากต่างประเทศ การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ตามมติ ครม.ปี 2556 จะใช้เวลาพิจารณาเพียงใดเป็นดุลพินิจของ กจว. ส่วนที่บริษัทต้องจ่ายค่าปรับก่อสร้างไม่เสร็จตามกำหนดวันละ 12 ล้านบาท เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาให้ผู้รับจ้างทิ้งงาน บริษัทซิโน-ไทยฯแจ้งว่าการก่อสร้างตามสัญญาหลักจะเสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย.64 อาคารรัฐสภาเสร็จไป 95% ยังเหลือาคารโถงกลาง ที่เป็นห้องทำงาน ส.ส.และงานตกแต่ง การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

“อัศวิน” ตรวจรื้อเสาเข็มกั้นเจ้าพระยา

เมื่อเวลา 13.40 น. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการรื้อเสาเข็มชั่วคราวในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นของ กทม.ใช้กั้นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับอาคารรัฐสภา โดยนายชวนกล่าวว่า มาตรวจความคืบหน้าการรื้อถอนเหล็กชีทไพล์ที่กั้นแม่น้ำเจ้าพระยากับบริเวณก่อสร้างอาคารรัฐสภาฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเป็นบริเวณที่ผู้รับเหมาอยากให้รื้อถอนออกไป เพราะเป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง เนื่องจากมีเหล็กจำนวนมากปักอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาลึกกว่า 9 เมตร มานานกว่า 18-19 ปี มีน้ำหนักรวมกันกว่า 700 กิโลกรัม ต้องใช้เครื่องมือรื้อถอน จึงต้องให้ พล.ต.อ.อัศวินช่วยดูแล เพราะเป็นของ กทม.จะเริ่มรื้อถอนเหล็กชีทไพล์ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.เป็นต้นไป ถ้าตามปกติต้องใช้เวลาเป็นเดือน แต่ผู้ว่าฯ กทม.จะช่วยเร่งรัดให้เร็วที่สุด เพื่อให้ผู้รับเหมาได้รับความสะดวกในการทำงานตามที่ร้องขอมา คาดว่าใช้เวลาไม่กี่วันน่าจะรื้อถอนเสร็จ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า คาดว่าจะใช้เวลา 5 วัน จะรื้อถอนเสร็จ จะเร่งทำตลอด 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 3 ผลัดผลัดละ 8 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.จะเสร็จในวันที่ 18 ม.ค.นี้

“บิ๊กแป๊ะ” ยกหูถามชิงผู้ว่าฯ กทม.ต่อไหม

เมื่อเวลา 13.55 น. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัวลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ต่อหรือไม่ว่า โดยย้อนถามนักข่าวกลับมาว่า “แล้วสื่ออยากให้ผมลงหรือไม่ วันนี้ยังไม่มีการประกาศรับสมัครอย่างเป็นทางการ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลย แต่เตรียมตัวฟิตร่างกายตลอด ประชาชนก็รู้ว่าผมเตรียมตัวอยู่แล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามแซวว่า ถ้าไม่ลงสมัครจะให้ลูกชายลงแทนได้หรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ถ้าเขาอายุถึงเกณฑ์สมัคร ก็ให้ลงแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งอายุ 27 ปีเท่านั้น เมื่อถามว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ด้วยใช่หรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินตอบว่า “เขาก็โทร.มาหารือ ถามผมว่าลูกพี่เอาไง ผมบอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ เมื่อถามย้ำว่า วันนี้ได้พูดคุยกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เรื่องการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินตอบว่าวันนี้ ไม่ได้คุยกันเรื่องการเมือง คุยแต่เรื่องการสำรวจการก่อสร้างอาคารรัฐสภาเท่านั้น

ก้าวหน้าพร้อมลุยท้องถิ่นไม่เกี่ยงกติกา

นายชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับเทศบาลของคณะก้าวหน้า หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้จัดเลือกตั้ง และมอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมความพร้อมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้เรายังไม่ได้หารือกันในรายละเอียด ต้องรอการประชุมร่วมกันในวันที่ 14 มกราคมนี้ ซึ่งจะหารือเรื่องการปรับแผน การถอดบทเรียน และวิเคราะห์ผลดีผลเสีย ที่ผ่านมาเราเตรียมความพร้อมเลือกตั้งเทศบาลอยู่แล้วไม่ว่ากติกาจะเป็นอย่างไรพร้อมเสมอ

เด็กราษฎรมอบตัวฝ่าฝืน พ.ร.ก.

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.ลุมพินี น.ส.มีมี่ (สงวนชื่อและนามสกุลจริง) เยาวชนอายุ 17 ปี ตัวแทนกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เข้ารายงานตัวกับพ.ต.ท.เทอดศักดิ์ มนัสชน สว. (สอบสวน) สน.ลุมพินี ตามหมายเรียกฐานร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากการชุมนุมปราศรัยม็อบ 25 ตุลาไปราชประสงค์ โดยมีแนวร่วมราษฎรมาจัดกิจกรรมเต้นเพลงสีดาลุยไฟ ให้กำลังใจหลายสิบคน ขณะที่นายชูเกียรติ หรือจัสติน แสงวงศ์ การ์ดภาคีประชาชน นำสติกเกอร์ยกเลิกมาตรา 112 มาติดที่รูป พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่หน้าโรงพัก ระบุว่า ประดับยศใหม่ให้กับ ผบ.ตร. ทั้งนี้ ภายหลังพนักงานสอบสวน และทีมสหวิชาชีพสอบสวน น.ส.มีมี่ เสร็จสิ้นได้ปล่อยตัวไปเนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกด้วยตัวเอง