ขยะใต้พรม บั่นทอนบ้านเมือง ลองนึกภาพย้อนกลับไปตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจและบริหารประเทศด้วยกลไกพิเศษซึ่งเป็นของเก่าอย่าง ม.17 เพียงแต่คิดค้นใหม่เพิ่มตัวเลขให้สูงคือ ม.44
หากมุ่งหวังตั้งใจ จริงใจเพื่อแก้ไขปัญหาหลักๆของประเทศ ม.44 ที่แหละจะเป็นตัวช่วยอย่างดีง่ายต่อความสำเร็จ
แต่เมื่อเจตนาไม่ใช่เพราะมุ่งหวังที่จะเป็นกลไกเสริม “อำนาจเพื่ออำนาจ” ให้แข็งแกร่งมั่นคงก็ได้สมใจนึก
ป้องกันตัวเอง ข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม
ต้องยอมรับความจริงอยู่อย่างว่าปัญหาของประเทศนั้นเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศทั้งระบบ
คืออำนาจและผลประโยชน์
นักการเมือง-ข้าราชการทั้งระบบได้สมสู่เกาะกินอย่างเหนียวแน่นจนทำให้ความมีส่วนได้ส่วนเสียมั่นคงกินลึกอย่างเป็นขบวนการ
หลายเรื่องรู้กันดีอยู่แล้วที่เป็นต้นเหตุของปัญหาคือการบังคับใช้กฎหมายที่ไร้ประสิทธิภาพทั้งระบบไม่ใช่เกิดขึ้นแค่องค์กรใดองค์กรหนึ่งหรือหน่วยงานราชการเพียงไม่กี่แห่ง
เพียงแต่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตผู้คนมากที่สุดว่าไปแล้วตลอด 24 ชั่วโมง ก็ว่าได้ไม่ใช่แค่เฉพาะกรุงเทพฯเท่านั้นแต่มันกินรวมไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ
“รัฐตำรวจ” เป็นส่วนหนึ่งในองคาพยพที่ทำให้เกิด ปัญหา
คสช.เคยเป็นที่หวังว่าจะเข้ามาแก้ไขต่างๆ พร้อมด้วย เหตุผลสนับสนุนแสดงถึงเจตนาว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
ถึงขั้นบอกว่า “ปฏิรูปประเทศ”...ขนาดนั้น
อีกเหตุหนึ่งระบุว่า มีความจำเป็นเพื่อให้บ้านเมืองสงบในท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองสองฝ่าย
ได้อย่างหนึ่งคือทำให้เกิดความสงบ
แต่เป็นความสงบที่มี “ไฟขัดแย้ง” เป็นฐานรองรับอยู่เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก
...
สุดท้ายก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและหนักหนาสากรรจ์นัก
รัฐบาล คสช.ซึ่งมีอำนาจพิเศษหากผู้นำปฏิบัติตามที่โฆษณาชวนเชื่อเอาไว้เชื่อได้เลยว่าสามารถจะที่แก้ไขปัญหาใหญ่ๆซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญของประเทศ
ไม่ได้ทำอะไรเลยที่เป็นชิ้นเป็นอัน
เข้าเรื่องมานิดอย่างกรณีโควิด-19 ที่แพกุ้งมหาชัยจนแพร่ระบาดไปทั่วประเทศมาจากแรงงานต่างด้าวจากเมียนมา
ก็เป็นเรื่องเลยล่ะครับ...
แรงงานเมียนมากับสังคมไทยนั้นผูกพันกันมานานแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน จนพูดกันว่าเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศตัวหนึ่งเลยแหละ...
ถ้าไทยขาดแรงงานเหล่านี้เงิบไปเหมือนกันนะ
หากทุกอย่างว่ากันไปตามระบบระเบียบเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีนอกมีในก็ไร้ปัญหาแต่ไปคิด “ค้ามนุษย์” มันก็เลยออกมาอย่างที่เห็นและเป็นอยู่อย่างนี้มายาวนาน...ที่สำคัญคือแก้ยาก
ก็นี่ไงล่ะ...ถึงไม่มีเครดิตความเชื่อถือ?
“สายล่อฟ้า”