หลังจากพลิกแผ่นดินควานหา รมว.คลังคนใหม่ มาร่วมเดือนในที่สุด นายกฯลุงตู่ก็คว้าตัวนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม รัฐบาล คสช.มาเสียบแทน นายปรีดี ดาวฉาย ที่ถอดใจลาออกกลางคัน

เหตุผลที่นายกฯลุงตู่ตัดสินใจเลือกนายอาคมเป็นขุนคลังคนใหม่ เพราะนายอาคมมีคุณสมบัติตรงสเปกครบ 4 ประการ...

1,เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจภาพรวม

2,รู้แนวทางการทำงานของรัฐบาล

3,มีจิตใจเข้มแข็งพร้อมรับแรงเสียดทานการเมือง

4,ไม่มีห่วงผูกคอ กล้าเอาคอขึ้นเขียงเป็น รมว.คลัง

ข้อสำคัญนายอาคมไม่คิดเยอะ คิดนาน เพราะแกเป็นเด็กในคาถา นายกฯลุงตู่พันเปอร์เซ็นต์!!

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การแต่งตั้ง “นายอาคม” เป็น รมว.คลังคนใหม่ มีกระแสตอบรับดีพอสมควร

เพราะ นายอาคม เคยเป็น รมช. และ รมว.คมนาคม มาถึง 5 ปี

ไม่ใช่ประเภทมือใหม่หัดขับ ไม่ต้องศึกษางานให้เสียเวลามาแล้วเริ่มทำงานได้ทันที

แถมการเป็นอดีตเลขาธิการสภาพัฒน์ ถือเป็นแต้มต่ออย่างสำคัญ

แม้ไม่เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลังโดยตรง แต่มีพื้นฐานด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ ผ่านงานวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจมาแล้วมากมาย

จุดแข็งอีกอย่างคือ นายอาคมเป็นคนมือสะอาด เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีประวัติเสียหายลายพร้อยเป็นปลากระทิง

การนั่งเก้าอี้ รมว.คลัง ควบคุมเงินไหลเข้าไหลออกปีละ 3 ล้านล้านบาท ทำให้สังคมสบายใจ

แต่การนั่งเก้าอี้ รมว.คลัง ยุคนี้ ถือเป็นเก้าอี้ปราบเซียน!

เพราะต้องเผชิญวิกฤติโควิด และวิกฤติเศรษฐกิจหนักที่สุด ยากที่สุด และรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์

ต้องแก้ปัญหารัฐบาลถังแตก และปัญหาหนี้สาธารณะชนเพดาน

ถ้าพลาดนิดเดียว...เศรษฐกิจพัง!!

...

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า จุดอ่อนของ “นายอาคม” คือเป็นสายข้าราชการประจำ

ทำงานละเอียดรอบคอบตามกระบวนขั้นตอน

เป็นคนคิดในกรอบ คิดนอกกรอบไม่เป็น

แต่วิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ ต้องใช้การแก้ปัญหาที่รวดเร็วกระชับฉับไว

เป็นไฟต์บังคับที่ “นายอาคม” รมว.คลังคนใหม่ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

อ้อ...ยังมี “จุดเสี่ยง” ที่นายอาคมยังไม่เคยประสบพบเจอ

คือต้องร่วมทำงานกับนัก การเมืองเขี้ยวลากดิน

ต้องประสานงานกับบรรดารัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจหลายพรรค การเมือง

ข้อสำคัญ ต้องปรองดองสมานฉันท์กับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่ประกบอยู่ข้างตัว

ถ้าไม่อยากมีปัญหา อย่าเผลอไปเหยียบตาปลา รมช.คลัง ทุกกรณี

ทำตัวนิ่มๆติ๋มๆไว้...จะปลอดภัย ในระยะยาว.

"แม่ลูกจันทร์"