สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดการประชุมใหญ่เป็นประจำทุกปี เพื่อรับฟังแนวคิดและข้อเสนอแนวทางการพัฒนาจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ และเพื่อเป็นเวทีสำหรับทุกภาคส่วนในการแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะต่อแนวทางในการพัฒนาประเทศในวิถีใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายตามแนวทางของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 และสนับสนุนเป้าหมายระยะยาวภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต่อไป
ปีนี้มีวาระพิเศษเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก และเป็นความท้าทายสำคัญในการดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน และการปรับแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะยาวให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมใหม่
ทาง สศช.ได้กำหนดการจัดประชุมประจำปี 2563 ในเรื่อง “ชีวิตวิถีใหม่ ประเทศไทยหลังโควิด” โดยกำหนดเอาวันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2563 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
พิธีเปิดการประชุมเริ่มด้วยวีดิทัศน์ เรื่อง “ชีวิตวิถีใหม่ ประเทศไทยหลังโควิด” กล่าวรายงาน โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
แล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมและแสดงปาฐกถาพิเศษ
จากนั้นเป็นการเสวนาบนเวทีใหญ่ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ นำเสนอ “ครึ่งทางแผนฯ 12 เตรียมพร้อมรับมือชีวิตวิถีใหม่” มีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) และประเด็นท้าทายในระยะต่อไป ได้แก่ นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายอุกฤษ อุณหเลขกะ ผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม “Ricult” จากนั้นที่ประชุมแสดงความคิดเห็นแล้วปิดประชุมตอนเที่ยง
...
การประชุมปีนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สศช.จึงจำเป็นต้องจำกัดผู้เข้าร่วมประชุมไว้เพียง 500 คน ใครได้รับเชิญอย่างเป็นทางการไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ว่าแต่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน ปีนี้มันดูอึมครึมชอบกล ปลงเสียว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเถอะนะ.
“ซี.12”