การลาออกของ ปรีดี ดาวฉาย จากตำแหน่ง รมว.คลัง หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 26 วัน มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายประเด็น โดยเฉพาะ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงการคลัง ถูกจับตามากที่สุด ส่วนเรื่องสุขภาพที่เป็นเหตุผลของการลาออก ไม่ใช่ประเด็น คนระดับนี้แล้ว ต้องดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี

การแต่งตั้ง กฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร ขึ้นเป็น ปลัดกระทรวงการคลัง น่าจะเห็นตรงกันเพราะ กฤษฎา หรือข้าราชการระดับบิ๊ก จากคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มาช่วยงานทีมเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่แล้วเพราะคุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นมือกันดี

จนกระทั่งการประชุม ครม.สัญจรที่ระยองที่ผ่านมา ปรีดี เสนอรายชื่อโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงการคลังเข้ามาด้วย ปรากฏว่ารายชื่อที่เสนอเข้าไปกับรายชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ตรงกัน ทำให้ ปรีดี ขอถอนเรื่องนี้ออกไปก่อน

รายชื่อที่ ปรีดี เสนอไปประกอบด้วย พชร อนันตศิลป์ จากอธิบดีกรมสรรพาสามิต ไปเป็น อธิบดีกรมศุลกากร ตั้ง ประภาส คงเอียด ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็น อธิบดีกรมสรรพสามิต และให้ ลวรณ แสงสนิท ผอ. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปเป็น ผอ.สคร.

ปรากฏว่า เอกสารที่นำเข้า ครม.แต่งตั้งโยกย้าย พชร อนันตศิลป์ ไปเป็น อธิบดีกรมศุลกากร ให้ ลวรณ แสงสนิท ไปเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต มีการเปลี่ยนแปลงไม่ตรงกับที่เสนอไป ทำให้ ปรีดี ขอเปลี่ยนรายชื่อในที่ประชุม ครม.แต่รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม คัดค้านเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จึงมีการถอนชื่อออกไปดังกล่าว

ก่อนหน้านั้น ปรากฏเป็นกระแสข่าวว่า ความเห็นในการโยกย้ายในกระทรวงการคลังระหว่าง ปรีดี กับ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังไม่ตรงกันโดยเฉพาะตำแหน่ง อธิบดีกรมสรรพสามิต และในที่สุด ครม.มีมติให้ ลวรณ ได้นั่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ส่วนตำแหน่งอื่นที่เสนอไปพร้อมกันบางตำแหน่งที่สำคัญยังไม่มีพิจารณา

...

เพราะฉะนั้นโฟกัสเรื่องของเรื่องจึงมาอยู่ที่ กรมสรรพสามิต เป็นหลัก ก่อนที่ พชร จะถูกย้าย มีการปรับโครงสร้างการเก็บภาษีของ กรมสรรพสามิต มีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้งานใน การติดตาม ตรวจสอบการเก็บภาษี นำร่องที่ การเก็บภาษีเบียร์ ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะมีการคาดว่า จะสามารถเก็บ ภาษีประเภทเบียร์ ได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านบาท

ที่ผ่านมามีจุดรั่วไหล ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ในการที่จะตรวจสอบนับปริมาณเบียร์ที่นำออกจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งจะนับจำนวนจากแท่นการผลิตไปจนถึงการวางจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการป้องกันการหนีภาษีหรือหลีกเลี่ยงภาษี ที่พบจุดผิดปกติมากมาย

การอ้างว่า ต้องวอร์มเครื่องก่อนผลิต 2 ชั่วโมง หรือการอ้างว่า เครื่องเสีย แค่ 5-10 นาที ก็สามารถที่จะมีความผิดปกติเกิดขึ้นได้ ถ้ามีเบียร์ที่ไม่ต้องเสียภาษี วางจำหน่ายในท้องตลาดปริมาณนับแสนขวดต่อวันจะทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้มหาศาลขนาดไหน เอาแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียวก็อยู่ลำบากแล้ว ไม่นับรวมเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th