การที่กองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร.ได้มอบหมายให้ บุคลากรระดับสูงในกองทัพเรือ เรียงแถวหน้ากระดานออกมาชี้แจงเรื่องเหตุผลและความจำเป็น ในการซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ 3 มูลค่า 22,500 ล้านบาท โดยยืนยันว่าจะต้องดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงที่จะต้องมีเรือดำน้ำในการปกป้องผลประโยชน์ทางทะเล โดยยกตัวอย่างถึงจะยังไม่มีการเกิดสงครามแต่สถานการณ์ในน่านน้ำ ทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี ไม่น่าไว้วางใจ ยกตัวอย่างประเทศ เพื่อนบ้าน เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา ก็มีกองเรือดำน้ำทั้งนั้น (เมื่อเทียบกับกองเรือของจีนหรือสหรัฐฯ ไม่ต่างจากแมลงหวี่แมลงวัน)
นอกจากนี้ยังระบุว่า จำนวนงบประมาณที่ผูกพัน มาจากการซื้อเรือดำน้ำลำแรกเมื่อปี 2560 ยังมีอยู่และเป็นการสั่งซื้อเรือดำน้ำอย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว ดังนั้น จะมีผลตามสัญญาที่จะต้องซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ซึ่งจะต้องมีการทำสัญญาในเดือน ก.ย.นี้
ประเด็นที่จะ เลื่อนการจัดซื้อ ออกไปก่อนให้พ้นจากวิกฤติการ แพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ได้หรือไม่ กองทัพเรือยืนยันว่าไม่ได้ เพราะจะกระทบกับสัญญา กระทบกับราคาเรือดำน้ำและมีการจ่ายเงินเป็นงวดๆ เป็นเวลา 7 ปี ไม่ได้จ่ายทีเดียวเป็นหมื่นล้าน
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังให้เหตุผลว่า การที่มีการนำเรื่องนี้มาเปิดเผยโดย อนุกรรมาธิการฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ คือ ส.ส.เพื่อไทย เป็น เรื่องการเมืองที่หวังจะให้มีผลกระทบกับรัฐบาล และยังยืนยันด้วยว่า เป็นโครงการระหว่างรัฐกับรัฐ หรือ จีทูจี จริงๆไม่ใช่ของปลอมเหมือนกับ โครงการรับจำนำข้าว ที่ผ่านมา
...
ดูเหมือนว่าชื่อของบิ๊กบู หรือ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ สายกิจการพลเรือนจะถูกโฟกัสมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นลีลาวาจาในการแถลงข่าว เข้มข้นไม่แพ้นักการเมือง ตอบโต้เสียดสีได้อย่างถึงพริกถึงขิง “ถ้านักการเมืองหมดมุก ก็หามุกอื่นเถอะ อย่าสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับกองทัพเรือ อย่าให้สังคมตกเป็นเครื่องมือในวิถีเก่าๆ และสกปรกแบบนี้อีกเลย”
ฟังแล้วแทบเคลิ้ม ถ้าสถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ ประเทศไทยพร้อมที่จะมีเงินพอในการซื้อเรือดำน้ำที่มีมูลค่า นับหมื่นล้าน กว่าจะนำมาใช้งานได้อีก 7 ปี ตอนนั้นไม่รู้ว่า โลกภายใต้ชีวิต วิถีใหม่ ไปถึงไหนแล้ว แต่ที่รู้แน่ๆคือ ประเทศไทย จะเป็นหนี้ ผูกพันในการซื้อเรือดำน้ำไปอีกนาน
ตอนนั้นประเทศไทยจะเป็นอย่างไร จะมีรายได้เข้าประเทศพอที่จะจ่ายค่างวดเรือดำน้ำหรือไม่ หรือล้มละลายเงินกู้ชนเพดาน ชาวบ้านอดอยากปากแห้ง ประเทศเกิดความหายนะขนาดไหน
สิ่งที่ต้องคำนึงให้มากที่สุดก็คือปัญหาเฉพาะหน้า เราพ้นจากวิกฤติไวรัสโควิด–19 หรือยัง ไม่ใช่ดูจากตัวเลขคนติดเชื้อ หรือคนตายในบ้านเราเท่านั้น แต่ต้องดูคนติดเชื้อและคนตายทั่วโลก ถ้าทั่วโลกยังป่วยยังตายเพิ่มขึ้นไม่หยุด ประเทศไทยก็ไม่ฟื้น
อย่าไปโยนให้เป็นเรื่องการเมืองเพราะนี่คือเรื่องของบ้านเมือง.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th