วิกฤติโควิดถล่มโลก ส่งผลให้รัฐบาลนายกฯลุงตู่ บักโกรกอย่างแรง ล่าสุด อาการช้ำรั่วกำเริบซ้ำอีก เนื่องจากกระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้ปี 2563 วืดเป้าไปถึง 3 แสนล้านบาท ต้องกู้เงินด่วนจี๋มาโปะ ส่วนที่ขาดอีก 2.14 ล้านบาท! รวมกับที่รัฐบาลจัดงบปี 2563 ขาดดุลอยู่แล้วอีก 4.69 แสนล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินชดเชยขาดดุลเต็มเพดานถึง 6.38 ล้านบาท

ยังไม่รวมที่รัฐบาลกู้เงินเยียวยาผลกระทบจากโควิดอีก 1 ล้านล้านบาท เท่ากับปี 2563 ปีเดียว รัฐบาลนายกฯลุงตู่กระหน่ำกู้เงินไปถึง 1.68 ล้านล้านบาท

แต่...อาการช้ำรั่วยังไม่จบ

เพราะงบรายจ่ายปี 2564 ซึ่งจะเริ่มรูดปื๊ดๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ รัฐบาลยังจัดงบขาดดุล “รายจ่ายสูงกว่ารายได้” เพิ่มอีก 6.23 แสนล้าน

เป็นภาระที่รัฐบาลต้องกู้เงินมาโปะส่วนที่ขาดดุลอีก 6.23 แสนล้านบาท

ยัง...ยังมีหนี้สะสมที่นายกฯลุงตู่กู้เงินไปอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจค้างท่ออีก 4 ล้านล้านบาท

“แม่ลูกจันทร์” จินตนาการไม่ถูกว่าจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจึงจะใช้หนี้เงินกู้เป็นภูเขาเลากาได้หมด??

อย่างไรก็ดี มีคำแถลงยืนยันจากกระทรวงการคลังว่า รัฐบาลนายกฯลุงตู่ยังไม่ถังแตก

ฐานะการเงินการคลังรัฐบาลลุงตู่ยังแข็งแกร่ง

หนี้เงินกู้รัฐบาลล่าสุดอยู่ที่ 52.4 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี

ยังไม่ทะลุเพดาน 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีตามที่กฎหมายกำหนด

ยังมี “ช่องว่าง” ให้กู้ได้อีกว่างั้นเถอะ

แต่...แต่ปัญหาอยู่ที่ผลกระทบจากวิกฤติโควิดจะทำให้จีดีพีปีนี้... ติดลบ 7 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างต่ำ

ถ้าจีดีพีปีนี้ติดลบ 7 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ยอดหนี้รัฐบาลพุ่งชนเพดาน 60 เปอร์เซ็นต์เต็มเหยียด

...

ไม่เหลือช่องว่างให้นายกฯลุงตู่กู้เงินเพิ่มได้อีก

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า เมื่อรัฐบาลรู้ล่วงหน้าว่าหนี้เงินกู้เต็มพิกัด รัฐบาลต้องใช้งบที่มีอยู่ในมือ...อย่างระมัด ระวังที่สุด!

โครงการใดยังไม่เร่งด่วน โครงการใดยังไม่จำเป็น โครงการใดไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ...
รัฐบาลควรเลื่อนออกไปก่อน

“แม่ลูกจันทร์” ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลทุ่มงบ 22,500 ล้านบาท สั่งซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และลำที่ 3 ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังลูกผีลูกคน

รัฐบาลควรเจรจากับรัฐบาลจีนว่าเรามีเหตุจำเป็นต้องขอเลื่อนการซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำ ไปก่อนชั่วคราว

อย่าให้โครงการซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ ทำให้ชาวบ้านชาวช่องต้องหงุดหงิดใจ

อย่าขยันหาเรื่องให้ทัวร์ลงนักเลยโยม.


“แม่ลูกจันทร์”