นายกรัฐมนตรีเคยชี้แจงหลายหน เหตุที่รัฐบาลยังไม่ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่เพื่อปิดปากประชาชน หรือเพื่อห้ามชุมนุมทางการเมือง แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐชอบอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินบ่อย รวมทั้งในการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาและเยาวชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ชี้แจงว่า ตำรวจยังไม่ได้รับหนังสือขออนุญาตชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงของการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ การชุมนุมจึงอาจมีความผิดตามกฎหมาย ขณะที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ เจ้าของท้องที่ อ้างถึงกฎหมายหลายฉบับ

รวมทั้งให้ผู้ร่วมชุมนุมรักษาระยะห่างทางกายภาพ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2 ปี และโทษปรับอีกต่างหาก รวมทั้ง พ.ร.บ.การจราจร และ พ.ร.บ.ความสะอาด ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศข้อเรียกร้อง 3 ประการ คือให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ให้หยุดการคุกคามประชาชน และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุติการสืบทอดอำนาจ

การชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษา และเยาวชน พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลเป็นการส่งสัญญาณ สะท้อนถึงความต้องการของคนรุ่นใหม่ จากผลการสำรวจความคิดเห็นของซูเปอร์โพลครั้งล่าสุด ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.6 ระบุว่าคนรุ่นใหม่ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตามที่ผู้ใหญ่ทางการเมืองสั่งสอน มองว่าผู้ใหญ่ทำตัวไม่ดี ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี

ไม่เฉพาะแต่เยาวชนเท่านั้น ประชาชนทั่วไปก็เชื่อถือรัฐบาลน้อยลง ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือนิด้าโพล สำรวจความเห็นประชาชน โดยถามว่าต้องการสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี มีกลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 40 ตอบว่ายังไม่มีผู้ที่เหมาะสม นักการเมืองฝ่ายค้านบางคนเตือนผู้นำรัฐบาลอย่าหลงเชื่อคนเอาใจ หรือสื่อที่เป็นกองเชียร์

...

รัฐบาลจะต้องไม่มองข้ามข้อ เรียกร้องของนักศึกษาและเยาวชน ข้อเรียกร้องแต่ละข้อล้วนเป็นปัญหาสำคัญของการเมืองไทยปัจจุบัน เช่น ให้หยุดคุกคามประชาชน น่าจะหมายถึงการปิดปากด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ออกมาเพื่อปราบโรคติดต่อ แต่กลายเป็นการปิดปากประชาชนด้วยการห้ามชุมนุมโดยสงบ ซึ่งเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

ถ้ารัฐบาลยังถือว่าประเทศเป็น “ประชาธิปไตย” รัฐบาลโดยเฉพาะผู้นำรัฐบาลจะต้องเปิดใจกว้าง ฟังความรอบด้าน ไม่ใช่รับฟังแต่ดำป้อยอของสื่อที่เป็นกระบอกเสียง หรือนักการเมืองที่กระสันเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องอดทนรับฟังความเห็นต่างด้วย แม้จะยังไม่ยุบสภา แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเอาจริง เพราะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล.