แล้วแต่นายกฯ
ไม่รู้ ไม่มี ไม่ย้าย
ครอบคลุมคำตอบจากคำถามการเมืองไม่ว่าจะมาไม้ไหนใช้คาถาสั้นๆง่ายๆจนเอาตัวรอดมาได้ตลอด
แน่ล่ะ...บนตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้จัดการรัฐบาล รองนายกฯ และ “พี่ใหญ่” แห่งบูรพาพยัคฆ์
“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ผู้มากบารมีโดดเด่นในยุคสมัย
ยิ่งสถานการณ์ที่รัฐบาลกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับ ครม.หลัง “สมคิด-4 กุมาร” ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง
จึงไม่แปลกที่จะถูกไมค์จ่อปากเป็นรายวันเพื่อหวังได้คำตอบถึงความเป็นไปต่างๆที่เกิดขึ้นจากบริบทการเมือง
การให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในปัจจุบันนั้นแค่วรรคเดียวก็ไปไกลเกินกว่าจะไขว่คว้าคืนกลับมาได้ง่ายๆ
เพราะโซเซียลมีเดียนำพาไปอย่างรวดเร็วจนรับรู้กันไปทั้งบ้านทั้งเมือง
บทบาทในความเป็น “ลุงป้อม” จึงต้องระมัดระวังมากขึ้นเพราะเคยผิดพลาดด้วยความเผลอพลั้งมาหลายครั้งจนเสียหายมาแล้ว
ก็เลยต้องปรับโหมดไปสู่ “นิวนอร์มอล” เสียหน่อย
...
ว่าไปแล้วในทางการเมืองจักรกลสำคัญของพรรคการเมือง ใหญ่เลขาธิการพรรคถือเป็น “วัวงาน” จริงๆก็คือบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนี้
เพียงแต่รัฐบาลปัจจุบันมีการบริหารจัดการอีกรูปแบบหนึ่งอย่างแยกส่วนกันผู้นำรัฐบาลจะไม่สังกัดพรรค
แต่มีพรรคการเมืองให้การสนับสนุน คือพลังประชารัฐ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรรับผิดชอบโดยตรงในฐานะหัวหน้าพรรคและผู้จัดการรัฐบาล
ถ้าในรูปแบบเดิมก็คือ เลขาธิการพรรคทำนองเดียวกัน
คนหนึ่งดูแลรัฐบาล คนหนึ่งดูแลพรรคการเมืองบนฐานแห่งความเป็นเนื้อเดียวกันอย่างแยกไม่ออก
“ป้อมรู้ ตู่รู้”...ด้วยกระบวนท่าบริหารอำนาจ
เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการแก้ไขปัญหาขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับนักการเมืองในสังกัด เพื่อสร้างสมดุล
ปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ใครจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับเขาไม่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรค อย่างน้อยก็สยบปัญหาได้ระดับหนึ่ง
ยังมีป้อมปราการสำคัญคือ “กองทัพ-ตำรวจ” เป็นหลังพิง
มองเข้าไปในพลังประชารัฐ แม้จะมีเอะอะมะเทิ่งกันบ้าง แต่ก็สามารถที่จะจัดแถวได้ดีขึ้น จนหลอมรวมหลายก๊กหลายก๊วนให้เข้าที่เข้าทาง
จึงไม่แปลกที่ “สมคิด-4 กุมาร” ต้องพ้นจากพรรคและรัฐบาลด้านหนึ่ง รู้ดีว่าลูกพรรคส่วนใหญ่คิดตรงกันว่าคือปัญหา
อีกด้านหนึ่งอาศัยจุดนี้สร้างสามัคคีในพรรค
ภาพที่ปรากฏในรัฐบาลแม้ทีมเศรษฐกิจชุดเก่า แม้เคยร่วมทำงานกันมาตั้งแต่ต้นจนดำรงความเป็นรัฐบาลมาได้อย่างต่อเนื่องโดยมีภาพ “สมคิด” เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
แต่คำถามหนึ่งก็คือ แล้วทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ ทำไมประชาชนยังบ่นมาตลอดว่ายังยากจนข้นแค้นอยู่
จำพรากจากกันเพราะ “การเมือง” หรืออะไรกันแน่... ผมไม่รู้!
“สายล่อฟ้า”