ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับพิจารณากรณีการถูกตัดสิทธิเข้ารับการสรรหา กสม. หลัง คกก.วินิจฉัยมีลักษณะต้องห้าม สั่งตรวจสอบ พร้อมส่งเรื่องถึงประธานกรรมการสรรหาฯ ชี้แจงข้อเท็จจริง
วันที่ 11 ก.ค. 2563 นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติรับพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ นางจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 213 ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 กรณีคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พิจารณาลักษณะต้องห้ามและวินิจฉัยว่า ทั้ง 2 คน มีลักษณะต้องห้ามในการเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องจากเคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และถูกตัดสิทธิในการเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ขณะที่ คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กลับวินิจฉัยให้อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติไม่มีลักษณะต้องห้าม และลงมติเลือกเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ ซึ่งผู้ร้องเรียนเห็นว่า การกระทำของคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ขัดต่อหลักความเสมอภาค ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนโดยตรง จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 25 และมาตรา 27
นายรักษเกชา กล่าวต่อว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า เนื่องจากเป็นคำร้องเรียนที่ผู้ร้องเรียนระบุว่าตนได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงจากกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงรับเรื่องไว้พิจารณาก่อน โดยเบื้องต้น สั่งให้สำนักกฎหมายและคดีเร่งตรวจสอบรวบรวมข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งมีมากอยู่พอสมควร เพื่อเสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาวินิจฉัยต่อไป และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน รอบคอบ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือขอให้ประธานกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่อไปอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว.
...