“ชวลิต วิชยสุทธิ์” ถามแรงเสียสติไปหรือเปล่า แนวคิดนำเข้าข้าวจากต่างเทศ ลั่น บริหารจัดการไม่ได้ก็อย่าซ้ำเติม จี้ “บิ๊กตู่” ตอบด่วนก่อนชาวนาลุกฮือ

วันที่ 7 ก.ค. 2563 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ช่วงระหว่างเดินทางไปทำบุญเนื่องในวันสำคัญทางศาสนา คือ วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างเดินทางจากวัดหนึ่งไปวัดหนึ่ง พบว่าชาวนากำลังปักดำต้นกล้าในนาข้าวด้วยความทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ แม้ในรอบหลายปีที่ผ่านมาราคาข้าวจะตกต่ำ ส่งผลให้ชาวนามีแต่หนี้สินเพิ่มพูน แต่ด้วยวิถีชีวิตที่ทำมาแต่บรรพบุรุษ ชาวนาก็มานะ อดทนทำนา อย่างน้อยก็ได้ข้าวขึ้นยุ้งฉางไว้กินทั้งปี อีกทั้ง ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำและข้าวเป็นสินค้าส่งออกนำเงินรายได้เข้าประเทศในลำดับต้นๆ มาหลายทศวรรษ

ดังนั้น เมื่อเห็นข่าวคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารการนำเข้าข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA เพื่อแปรรูปข้าวเป็นสินค้าอาหาร โดยคณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ การที่ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวป้อนโลกมานาน มีแนวคิดจะพิจารณานำเข้าข้าวจากต่างประเทศมาบริโภค เห็นข่าวแล้วแทบช็อก ไม่เชื่อสายตาตนเอง แม้จะอ้างว่าไม่ได้นำเข้ามาเป็นข้าวสารวางจำหน่าย แต่จะนำมาแปรรูปเป็นอาหาร มีการควบคุมทุกขั้นตอนก็ตาม ถึงอย่างไรการรั่วไหลไปเป็นข้าวสารก็ควบคุมได้ยาก ที่สำคัญ แม้ควบคุมได้ก็กระทบกับชาวนา เพราะข้าวไทยก็สามารถนำไปแปรรูปเป็นสินค้าอาหารได้เช่นกัน ทำไมไม่ใช่ข้าวไทยแปรรูป จะได้มีมูลค่าเพิ่ม เมื่อนำเข้าข้าวจากต่างประเทศย่อมส่งผลให้ราคาข้าวภายในประเทศตกต่ำอย่างแน่นอน

...

ทั้งนี้ ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ขอเรียนไปยังรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมาว่า เมื่อไม่สามารถบริหารจัดการให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาที่เป็นธรรม อย่างน้อยก็ไม่ควรซ้ำเติมชาวนาด้วยการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมาผลิตสินค้าอาหาร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำยิ่งขึ้น ข้ออ้างที่ว่า จะต้องดำเนินการตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนฟังไม่ขึ้น รัฐบาลควรหาทางเจรจาในข้อตกลงใดที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรต่อประชาชนของเรา แล้วหาทางแก้ไข ผ่อนปรน และหน้าที่ของรัฐบาลต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนป็นลำดับแรก ต้องหาทางเจรจา แก้ไข ผ่อนปรนอย่างถึงที่สุด

“ผมรู้สึกเสียใจที่รัฐบาลไม่มีแนวคิดปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรชาวนาไทยเป็นหลักไว้ก่อนต้องให้ชาวนาลุกฮือประท้วงเหมือนตอนเสนอร่าง พ.ร.บ.ข้าว ซึ่งโดนประท้วงจนแท้งไปแล้ว บรรดาชาวนาถามแรงๆ กับผมผ่านไปยังรัฐบาลว่า จริงหรือท่าน ส.ส. ที่รัฐบาลมีแนวคิดจะนำเข้าข้าวจากต่างประเทศโดยมีเป้าหมายมาผลิตเป็นสินค้าอาหาร ถ้าจริงผู้นำรัฐบาลต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ ผมได้ตอบไปว่าจะส่งข่าวด่วนไปยังนายกรัฐมนตรีให้รีบตอบด่วน ก่อนที่ชาวนาจะลุกฮือ”