การประชุม ครม.วันอังคาร มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 5 ในกลุ่มกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ให้กลับมาเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เช่น โรงเรียน สถาบันการศึกษา ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านเกม อินเตอร์เน็ต อาบอบนวด โรงน้ำชา และ อนุมัติงบประมาณ 22,400 ล้านบาท ให้กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมภาคการท่องเที่ยว ในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เปิดให้จองสิทธิ์ตั้งแต่ 15 กรกฎาคมนี้
สถานการณ์โควิด-19 นับถึงวันอังคาร์ที่ 30 มิถุนายน ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นวันที่ 36 แล้ว ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่ระบาด ในไทยน่าจะหมดฤทธิ์ขาดตอนไปแล้ว แต่เชื้อโควิดที่นำเข้ายังพบต่อเนื่อง การปิดน่านฟ้าไม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงยังจำเป็นต่อไป
มาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศที่ ครม.อนุมัตินี้ คุณไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า มีวงเงิน 22,400 ล้านบาท โดย ครม.ให้รวมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กับโครงการ “เที่ยวปันสุข” เป็นโครงการเดียวกันในชื่อ “เราเที่ยวด้วยกัน” มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเงินช่วยเหลือ ให้เฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินเพียงอย่างเดียว ค่าโดยสารรถประจำทางและรถเช่าไม่ให้แล้ว เพราะมีจำนวนมากไม่สามารถจัดทำแพลตฟอร์มตรวจสอบได้ทัน
โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มี ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้จัดทำแพลตฟอร์มลงทะเบียน
ผู้ประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร โฮมสเตย์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ส่วน ประชาชนที่จะไปเที่ยวในโครงการนี้ ลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของ ธนาคารกรุงไทย โดยเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เมื่อได้สิทธิ์แล้ว จึงเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ WWW.เราเที่ยวด้วยกัน.com นักเลงคีย์บอร์ดเตรียมซ้อมความเร็วไว้ให้ดี โดยเฉพาะช่วงวันที่ 25–28 กรกฎาคม ปลายเดือนนี้เป็นวันหยุดยาว ครม.มีมติให้วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม เป็น วันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ ให้หยุดยาวต่อเนื่องกัน 4 วัน
...
การช่วยเหลือค่าที่พัก รัฐบาลจะโอนเงินค่าที่พักให้ผู้ประกอบการในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน แต่ละคนได้รับสิทธิ์ห้องพักไม่เกิน 5 คืน รวมเงินที่รัฐบาลช่วยค่าห้องพักคนละ 15,000 บาท ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ รัฐบาลสนับสนุน 40% แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อห้องต่อคืน ไม่เกิน 5 คืน เป็นเงินอีกคนละ 3,000 บาท และ ค่าตั๋วเครื่องบินสนับสนุนคนละ 2,000 บาทต่อคน จำกัดจำนวน 2 ล้านใบ ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน รัฐบาลจะจ่ายคืนให้ 40% ตั๋วไป-กลับ รัฐบาลจะช่วยไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงในเรื่องนี้ด้วยว่า ในวันข้างหน้าจะปรับการท่องเที่ยวเป็นวันธรรมดา ช่วงกลางสัปดาห์ แต่ต้องทำงานวันอื่นทดแทน เพราะวันนี้มีการท่องเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์เต็มไปหมด นี่คือการคิดใหม่ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ โปรโมตการท่องเที่ยววันธรรมดาบ้าง แต่คิดราคาย่อมเยาลงมา จะได้เที่ยวแบบกระจายไม่กระจุกตัวเสาร์-อาทิตย์ ทุกอย่างแพงไปหมดแย่งกันพัก แย่งกันเที่ยว แย่งกันกิน
ผมขอเสนอ “การคิดใหม่” อีกเรื่องหนึ่งให้ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ตรงนี้ก็คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวผู้สูงอายุ ปีหน้าประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” โดยสมบูรณ์แล้ว มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปกว่า 14 ล้านคน ถ้ารัฐบาลส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ ท่องเที่ยวในวันธรรมดา ด้วยการ สนับสนุนค่าห้องพัก ตั๋วเครื่องบิน ส่วนลดร้านอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ ผมคิดว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยววันปกติทุกจังหวัดให้คึกคักขึ้นมาได้อีกมากเลยทีเดียว
ข้อเสนอ “แนวคิดใหม่” โครงการนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ การท่องเที่ยวฯ ต้องไปคิดต่อให้ครบวงจร เรามีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทุกปี นักท่องเที่ยวสูงอายุก็จะเพิ่มขึ้นทุกปี สามารถต่อยอดไปถึงธุรกิจผู้สูงอายุได้อีกมากเลยทีเดียว ลองนำไปคิดกันนะครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”