พนักงานองค์การค้าของ สกสค.ช็อก ถูกเลิกจ้างกะทันหันเกือบพันคน มีผล 1 ส.ค.นี้ โฆษก สกสค. เผยบอร์ดต้องตัดสินใจหยุดภาระหนี้สินที่มีมากถึง 6 พันล้านบาท ย้ำต้องเลือกรักษาองค์กร เชื่อเจ็บแต่จบ พร้อมชดเชยพนักงานตามกฎหมายทุกอย่าง โดยจะได้เงินก้อน 5 แสน-3 ล้านบาทตามอายุงาน ขณะที่ ปธ. สหภาพแรงงานฯ ลั่น ไม่ยอมเป็นเหยื่อการบริหารที่ผิดพลาดของ ศธ.เตรียมฟ้องศาลปกครอง ด้านนายกฯ รู้เรื่องแล้วบอกให้เยียวยาพนักงาน สกสค.ให้ดีที่สุด
พนักงานองค์การค้า สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ช็อกแต่เช้าเมื่อเจอคำสั่งเลิกจ้างกะทันหัน โดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายธนพร สมศรี รองเลขาธิการ สกสค.ในฐานะโฆษกสำนักงาน สกสค.เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการองค์การค้าของ สกสค. ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการเลิกจ้างพนักงานองค์การค้าฯ จำนวน 961 ราย จากทั้งหมด 1,035 ราย ล่าสุดนายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ได้ลงนามคำสั่งองค์การค้า สกสค.85/2563 เลิกจ้างพนักงานองค์การค้าฯ จำนวนดังกล่าวแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป พนักงานองค์การค้าฯ ที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานกำหนดทุกประการ ซึ่งสาเหตุที่บอร์ดองค์การค้าฯมีมติให้เลิกจ้างพนักงานในครั้งนี้ สืบเนื่องจากองค์การค้าฯขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี และเป็นหนี้สะสมรวมแล้วขณะนี้กว่า 6,700 ล้านบาท เฉพาะจ่ายเงินเดือนพนักงานก็ตกเดือนละประมาณ 40 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่มีการปรับลดพนักงานองค์การค้าฯ อาจจะติดหนี้สะสมถึงหมื่นล้านบาทในเร็วๆนี้เราต้องหยุดเลือดที่กำลังไหล แต่เมื่อทำแล้วแม้จะเจ็บแต่มันจบ และคนที่กล้าตัดสินใจเรื่องนี้คือนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายดิศกุล ที่พร้อมยอมรับแรงเสียดทานที่จะเกิดขึ้นตามมาจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
...
รองเลขาธิการ สกสค. กล่าวอีกว่า ปัจจุบันภาระงานขององค์การค้าฯไม่ได้มีมากเหมือนในอดีต ดังนั้น ต้องปรับลดบุคลากรให้เหมาะสมกับจำนวนงาน ตนเข้าใจว่าการเลิกจ้างพนักงานต้องมีคนถูกใจบ้างและไม่ถูกใจบ้าง อีกทั้งสังคมอาจมีความกังวลใจว่าเราเลิกจ้างพนักงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เราต้องเลือกรักษาองค์กรไว้ พนักงานที่ถูกเลิกจ้างก็จะได้รับการดูแลเป็นเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด บางรายได้รับเงินก้อนถึง 3 ล้านบาทตามอายุงาน และต่ำสุดคือ 500,000 บาท
“สำหรับเงินที่จะนำมาใช้ในการจ่ายชดเชยให้แก่พนักงานองค์การค้าฯนั้น สำนักงาน สกสค.จะให้ยืมมาจ่ายก่อนประมาณ 1,500 ล้านบาท และหลังจากนั้นจะมีการรวบรวมหนี้ขององค์การค้าฯ ทั้งหมดทั้งหนี้จากภาคเอกชนและที่เป็นหนี้อยู่กับ สกสค.แล้วจะนำทรัพย์สินขององค์การค้าฯ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และเครื่องจักร มาบริหารจัดการหนี้ก้อนนี้ คาดว่าน่าจะสามารถชำระหนี้องค์การค้าฯได้ก้อนใหญ่ เมื่อใช้หนี้ไปแล้วอาจจะเหลือหนี้อยู่เพียง 1,000 ล้านบาท น่าจะบริหารจัดการหนี้ได้ไม่ยาก” โฆษก สกสค.กล่าว.
ด้านนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขอยืนยันว่าพนักงานทุกคนจะได้รับการเยียวยาตามกฎหมายแรงงานอย่างแน่นอน นายณัฏฐพลเข้าใจถึงความเดือดร้อนของพนักงานและเจ้าหน้าที่ จึงขอให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค.วาระพิเศษ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เพื่อขออนุมัติงบประมาณสำรองจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่ถูกเลิกจ้างก่อน 1-2 แสนบาทต่อคน และจะได้ครบถ้วนทั้งหมดในวันที่ 1 ส.ค.ที่ถือว่าเป็นวันสิ้นสุดสัญญาจ้างตามประกาศดังกล่าว
ขณะที่นายนิวัตชัย แต่งไพร ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา กล่าวว่า ขณะนี้สหภาพฯ อยู่ระหว่างการศึกษาคำสั่งเลิกจ้างดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และมีความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ พนักงานหรือไม่ โดยสหภาพฯ จะรวบรวมรายละเอียดต่างๆ ไปร้องต่อศาลปกครอง และศาลแรงงาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่องค์การค้าของ สกสค.อยู่ในอาการเสียขวัญและกำลังใจมาก เนื่องจากไม่คิดว่าจะมีคำสั่งเช่นนี้ออกมา อีกทั้งตนมองหนี้สิ้นขององค์การค้าของ สกสค. ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มาจากการบริหารงานที่ผิดของทีมผู้บริหารที่ ศธ.และรัฐบาลส่งมา จนทำให้องค์การค้าของ สกสค.ต้องตกอยู่ในสภาวะที่ลำบาก และกลับกลายเป็นว่าพนักงานต้องกลายมาเป็นเหยื่อของการบริหารที่ผิดพลาดนี้ อย่างไรก็ตามในเร็ววันนี้ตนจะรวบรวมข้อมูล เพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.นำคำสั่งเลิกจ้างพนักงานมาติดประกาศไว้ที่บริเวณโรงอาหารของโรงพิมพ์องค์การค้าฯ ลาดพร้าว ปรากฏว่ามีพนักงานทยอยไปดูประกาศและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ในเวลาดังกล่าวมีพนักงานองค์การค้าฯ หญิงรายหนึ่งหลังจากเดินไปดูประกาศแล้วได้เดินไปกราบสักการะองค์พฤหัสบดีที่อยู่ใกล้ๆได้กรีดร้องในทำนองรับไม่ได้กับการถูกเลิกจ้างครั้งนี้ และเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้น สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รีบเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลกันอย่างโกลาหล จากนั้นพนักงานทยอยลงมารวมตัวที่บริเวณโรงอาหาร มีสหภาพแรงงานองค์การค้าฯมาพูดคุยเพื่อกำหนดแนวทางในการเคลื่อนไหวคัดค้านคำสั่งดังกล่าว และสลายตัวในเวลาต่อมา
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีองค์การค้า สกสค.เลิกจ้างพนักงาน 961 คนว่า รับทราบแล้วเป็นการปรับโครงสร้างภายใน สกสค.ถ้าประเมินแล้วมีอะไรต้องวางแผนปรับปรุงภายในกระทรวงศึกษาธิการไปว่ากัน แต่ต้องดูแลเยียวยาให้เหมาะสม หลายอย่างต้องปรับ ถ้าไม่ปรับก็อุ้ยอ้ายอยู่อย่างนี้ เราต้องพยายามปรับลดงบประมาณ บุคลากรภาครัฐ แต่ต้องดูความพร้อมส่วนไหนที่ทำได้ก็ทำก่อน จะได้เหลืองบฯไปทำอย่างอื่นบ้าง ต้องเห็นใจรัฐบาลการจะ ทำอะไรต้องมีข้อขัดแย้งแน่นอน แต่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยา ไม่ว่าจะการบิน ไทย ขสมก. หรืออื่นๆ บุคลากรเยอะพอสมควร ขอร้องให้ช่วยกัน รัฐบาลจะดูแลให้ดีที่สุด