ไม่ต้องอ้ำอึ้งอมพะนำ ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี้ให้เมื่อยต่อมทอนซิลฟันธงฉัวะนายกฯ ลุงตู่ จะขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยาวไปอีกหนึ่งเดือน หรือสามเดือน
เหตุผล...แม้ประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดมาแล้วหนึ่งเดือน
แต่ทั่วโลกยังมีผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ๆ เพิ่มขึ้นๆวันละกว่าแสนคน
แสดงว่าไวรัสโควิดยังคุกคามชาวโลกอย่างรุนแรง
ประกอบกับรัฐบาลกำลังจะคลายกุญแจล็อกให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าเมืองไทย
ยังมีความเสี่ยงสูงที่โควิดจะกลับมาระบาดซ้ำได้ตลอดเวลา
นายกฯลุงตู่ จึงต้องการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปยาวๆ
ถ้าเกิดวิกฤติฉุกเฉินเมื่อไหร่ สามารถใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งการได้สะดวกโยธิน
เรื่องเป็นอย่างนี้แหละท่านผู้ชม
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วยป้องกันโควิดแพร่กระจายได้ผลในช่วงที่ผ่านมา
แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันวิกฤติเศรษฐกิจไทยที่ทรุดหนักระดับดิ่งพสุธาอย่างแน่นอน
ไม่มีอำนาจพิเศษใดๆ จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นจากโคม่าได้เลย
ความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่คือ...เงินกู้สี่แสนล้านบาทในกระเป๋ารัฐบาล
เงินกู้สี่แสนล้านบาทจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้พ้นวิกฤติได้จริงหรือไม่??
อยู่ที่ฝีมือ นายทศพร สิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ผู้มีหน้าที่คัดเลือกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หน่วยราชการต่างๆ เสนอขึ้นมา
ล่าสุดมีกว่า 4.3 หมื่นโครงการ ที่เสนอให้พิจารณา
คิดเป็นวงเงินลงทุนกว่า 1.3 ล้านล้านบาท เกินกว่าเงินกู้สี่แสนล้านบาทหลายเท่าตัว
แสดงว่าฝูงแร้งกำลังจ้องรุมทึ้ง “งบสี่แสนล้านบาท” ของรัฐบาลกันชุลมุน
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายทศพร เลขาธิการสภาพัฒน์ และทีมงานจะต้องเร่งวิเคราะห์ 4.3 หมื่นกว่าโครงการให้เสร็จใน 5 วัน
...
เพื่อส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ วันที่ 1 กรกฎาคม
จากนั้นคณะกรรมการกลั่นกรองจะคัดแยกรอบ 2 ให้เสร็จใน 7 วัน
ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติใช้เงินกู้สี่แสนล้านบาททันเส้นตาย...วันที่ 8 กรกฎาคม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เงินกู้สี่แสนล้านบาท ใช้เวลากลั่นกรองโครงการเพียง 7 วัน
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การเร่งรีบพิจารณาโครงการกว่า 4.3 หมื่นโครงการ ในเวลาเพียง 7 วัน
ย่อมไม่ละเอียดรอบคอบรัดกุม
น่าห่วงว่าเงินกู้สี่แสนล้านบาทจะไม่เกิดผลกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาลต้องการ
เตือนแล้วนะโยม...ไม่เชื่อก็ตามใจ.
"แม่ลูกจันทร์"