โลกยุคนิวนอร์มอล หลังวิกฤติโควิด เปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารปัญหาเศรษฐกิจและสังคม รุนแรงซับซ้อนจนวิ่งไล่ตามไม่ทัน
“แผนยุทธศาสตร์ชาติ” ของ คสช.ที่เขียนไว้ล่วงหน้า 20 ปี กลายเป็น “แผนยุทธศาสตร์เชย”
เชยตั้งแต่ปัจจุบันยันอนาคตอีก 20 ปี
ทำให้นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล แม้แต่ ส.ว.ลากตั้ง ออกมาเรียกร้องให้แก้ไขปรับปรุงแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ล่าสุด นายกฯลุงตู่ได้เกิดดวงตาเห็นธรรม
ยอมรับความจริง สั่งให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ เร่งศึกษาวิเคราะห์รวบรวมข้อมูลเพื่อปรับปรุงแก้ไขแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (ที่เพิ่งประกาศใช้มาแค่ 2 ปี) ให้สอดคล้องกับยุคนิวนอร์มอลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“แม่ลูกจันทร์” อนุโมทนาสาธุ ที่ นายกฯลุงตู่ ยอมรับความจริง ยอม แก้ไขเนื้อหาแผนยุทธศาสตร์ชาติฉบับเดิมที่ล้าหลังตกยุคหลงทิศหลงทาง
ปัญหาคือ จะแก้ไขแผนยุทธศาสตร์อย่างไร ให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกหลังวิกฤติโควิดอย่างแท้จริง??
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าประเด็นแรก การกำหนดอนาคตประเทศล่วงหน้าถึง 20 ปี
ขัดแย้งกับความเป็นจริง
เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา เปลี่ยนทุกวัน เปลี่ยนทุกชั่วโมง เปลี่ยนทุกนาที
การผูกอนาคตประเทศล่วงหน้า 20 ปี แล้วบังคับให้ทุกรัฐบาลต้องเดินตาม เท่ากับบังคับให้ประเทศเดินถอยหลังอย่างชัดเจน
ประเด็นต่อมา แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านสาธารณสุข ซึ่งซุกอยู่ในแผนด้านเสริมสร้างความเข้มแข็ง
ต้องดึงออกมาเป็นแผนยุทธศาสตร์สำคัญ
...
แผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงยุคนิวนอร์มอลต้องทำกองทัพเล็กลง ลดการทุ่มซื้ออาวุธแบบเดิม
ปรับภูมิทัศน์กองทัพไปเน้นขับเคลื่อนด้านพัฒนา
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเศรษฐกิจเพิ่มความ สามารถการแข่งขันต้องรื้อแก้ใหม่ทั้งยวง
การกำหนดให้จีดีพีประเทศไทยต้องเติบโตไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์
นายกฯลุงตู่ อยู่มา 6 ปี ยังไม่เคยทำให้จีดีพีประเทศโตถึง 5 เปอร์เซ็นต์ได้เลย
เป้าหมายรายได้ขั้นต่ำประชากรไทยในปีหน้า (2564) ไม่ต่ำกว่า 8,200 เหรียญยูเอสต่อคนต่อปี หรือ 262,400 บาทต่อคนต่อปี หรือ 21,000 บาทต่อคนต่อเดือน
มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
เป้าหมายรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาทต่อปีก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
โลกยุคหลังโควิด มันโหดกว่าที่คิดนะโยม.
"แม่ลูกจันทร์"