"มงคลกิตติ์" มอบหน้ากากอนามัย-ไข่ไก่-เก้าอี้ ให้นร. จ.ราชบุรี เสนอรัฐบาลทำธนาคารน้ำใต้ดินทุกหมู่บ้าน พร้อมสร้างคลองส่งน้ำลอยฟ้า นำน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นน้ำจืด โดยใช้ "โซลาร์โดม" เหมือนกับ 'ซาอุดีอาระเบีย' แก้การขาดแคลนน้ำทำเกษตร

วันที่ 9 มิ.ย. พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมกับสโมสรไลออนส์ (วังจันทร์กรุงเทพฯ) และทีมงาน โดยมี อดีตนายกสโมสรไลออนส์ (นางพัทธนันท์ กีระกะจินดา นางกรรณิกา อรีสมาน นางวิชุลลตา นายสมชาย โรจนพรทิพย์) ร่วมบริจาคหน้ากากอนามัยจำนวน 50 กล่อง จำนวน 2,500 อัน เก้าอี้จำนวน 99 ตัว ไข่ไก่ ตุ๊กตา ให้กับโรงเรียนวัดเจติยาราม (บัณฑิตประชาน้อยพานิช) อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมี ผู้อำนวยการโรงเรียน (นายเกรียงศักดิ์ ดีประเสริฐ) เป็นผู้รับมอบ คณาจารย์และเด็กนักเรียนในโรงเรียน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้ถือโอกาสมากับ สโมสรไลออนส์ (วังจันทร์กรุงเทพฯ) เพื่อมอบหน้ากากอนามัย ให้กับครู นักเรียน ผู้ปกครอง เอาไว้ใช้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกทั้งเก้าอี้นักเรียน ไข่ไก่ ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อย ที่มีให้กันในยามทุกข์ยาก โรงเรียนเองปีนี้ งบ 63 ก็ถูกดึงคืนไปช่วยแก้ปัญหาโควิด-19 ใน พ.ร.บ.โอนคืนงบประมาณปี 2563 วงเงิน 88,000 ล้านบาท ซึ่งทุกส่วนราชการโดนดึงเงินคืนหมดเพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกว่า 64 ล้านคน ทุกสาขาอาชีพ รวมกับงบตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีวงเงิน 555,000 ล้านบาท เป็นเงินให้เปล่าเพื่อเยียวยากับพี่น้องประชาชน ช่วงเดือน เม.ย.63-มิ.ย.63 หลัง จากนี้ รัฐบาลควรจะเปิดให้พี่น้องประชาชนได้ทำมาหากินปกติ ในทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง สถานบริการ เพราะมีผู้ประกอบอาชีพด้านนี้ จำนวนมาก อีกทั้งตอนนี้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในประเทศไม่มีแล้ว ติดต่อกันมา 15 วัน ที่มีติดเชื้อตอนนี้ก็มาจากต่างประเทศทั้งหมด ประมาณร้อยละ 5%-7% ของผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ต่อจากนี้ไปก็ต้องรอให้มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถึงจะเปิดการท่องเที่ยวได้ ช่วง มกราคม 2563- พฤษภาคม 2563 เหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 14 ล้านคน รายได้หดหายไปกว่า 1.0-1.4 ล้านล้านบาท ทำให้ธุรกิจโรงแรม สายการบิน ธุรกิจต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวปิดตัวลง ขายกิจการจำนวนมาก คนตกงานนับไม่ถ้วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถประคองชีวิตพี่น้องประชาชนให้อยู่รอดจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ รัฐบาลควรหามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากในระยะสั้น อีกทั้งควรส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม เพิ่มพื้นที่รับน้ำฝนให้มากที่สุดในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล เก็บน้ำไว้ใช้เพื่อเพาะปลูก เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกให้มาก โดยการทำธนาคารน้ำใต้ดิน จะทำให้เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มากขึ้น เพิ่มรายได้ในภาพรวม 

...

นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า ในอนาคต ตนอยากเสนอให้รัฐบาลเพิ่มน้ำในระบบชลประทานเดิม เพื่อนำน้ำมาหล่อเลี้ยงเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตร อีกกว่า 100 ล้านไร่ เพราะน้ำในเขื่อน น้ำฝนไม่เพียงพอ จึงเห็นว่าควรใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีต้นทุนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนวัตกรรมและการอนุรักษ์แห่งใหม่ โดยสร้างโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ใช้เทคโนโลยี “โซลาร์โดม” เหมือนประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมสร้างคลองส่งน้ำ นำน้ำทะเลที่เปลี่ยนเป็นน้ำจืด เข้าสู่ระบบชลประทานแบบใหม่ (คลองส่งน้ำลอยฟ้า) เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในระยะยาว ก็น่าจะใช้เงินลงทุน ประมาณ 500,000-1,000,000 ล้านบาท จะเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในประเทศไทยในระยาวอีกวิธีหนึ่ง