เอาเรื่องดีๆมาบอก
ไม่มีมโนให้เจ็บคอ...
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในไทยมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆกำลังก้าวผ่านไปมุ่งสู่ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการเติมเต็มไปสู่วาระด้านเศรษฐกิจ
ทุกคนกำลังรอคำตอบว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไรในปมคลายล็อกดาวน์แนวโน้มน่าจะเป็นไปแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เน้นย้ำสุขภาพต้องมาก่อน
ไม่ผลีผลามแต่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ว่ากันตรงๆก็คือ การปลดล็อกที่จะเริ่มจากพื้นที่กลุ่มเสี่ยงน้อยที่สุดไล่ไปถึงกลุ่มเสี่ยงมาก รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆเพื่อความรอบคอบ
เพื่อเป็นการเปิดประตูไปสู่ความเป็นไปว่าจะเริ่มตรงไหนก่อน ซึ่งต้องสอดรับด้วยว่าจะส่งผลต่อธุรกิจที่ยังประโยชน์ต่อเศรษฐกิจทั้งระบบด้วย
ข้อเห็นอย่างนี้จึงต้องพึ่งพาภาคธุรกิจเอกชนที่น่าจะมีความรอบรู้และเชี่ยวชาญโดยตรงทำให้สามารถชี้เป้าได้ตรงจุด
เริ่มต้นดีมีข้อมูลครบเครื่องก็น่าจะไปได้ดี
อีกประเด็นที่กำลังลุ้นกันว่าจะได้ผลแค่ไหนคือการเร่งรีบของบรรดาผู้เชี่ยวชาญซึ่งกำลังค้นคว้าการหาสูตรสำเร็จ
ผลิต “วัคซีน” เพื่อนำมาใช้ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาด ไม่ใช่นำมารักษาซึ่งนั่นจะเป็นตัวยาที่แยกต่างหาก
ค้นหาวัคซีนเพื่อป้องกันได้ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่จะหยุดยั้งไวรัสได้
ไทยเป็นหนึ่งในประเทศทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับว่าระบบสุขภาพมีประสิทธิภาพจนติดอันดับที่ 6 ของโลก
ก็กำลังศึกษาค้นคว้าอย่างเต็มที่ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากจีนหากประสบผลสำเร็จก็เท่ากับว่าได้พัฒนาทางการแพทย์ที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง
พูดถึงเรื่องนี้แล้วอยากจะนำเสียงชื่นชมจากผู้นำองค์กร ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆทั่วโลกกับการรับมือในสถานการณ์โควิด-19
...
แม้แต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังเผชิญศึกใหญ่ในประเทศเขาเองเนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโลก
ปัญหาสำคัญก็คือความขัดแย้งภายในที่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวพันตั้งแต่เริ่มต้นระบาดแล้ว และนำมาซึ่งการแตกความเห็นระหว่าง “เปิดล็อก” กับ “ปิดล็อก”
ผู้นำประเทศที่มีประชาชนสนับสนุนส่วนหนึ่งกับผู้ว่าการรัฐต่างๆ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มองกันคนละมุม
“ทรัมป์” ชี้ว่าไทยเป็นที่ 1 ของเอเชีย...
องค์การอนามัยโลกชื่นชมว่ากระทรวงสาธารณสุขไทยควบคุมและแก้ปัญหาได้ดีเป็นไปตามมาตรฐาน
นอกจากนั้นมีเสียงยกย่องจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นนายจอห์น แมคอาร์เธอร์ ผอ.ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐฯ ส.ส.ในสภาอังกฤษประจำประเทศไทย
สื่อเยอรมนี สื่อญี่ปุ่น ศ.นพ.ลินคอล์น แซน จากฮาร์วาร์ด นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร ทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย...นี่เป็นเพียงตัวอย่าง
ยกย่องนโยบายของไทย ระบบ อสม.เป็นพลังฮีโร่เงียบการร่วมใจของคนไทย ควบคุมปัญหาได้ดีเหล่านี้คือคำตอบที่การันตีได้
ในท่ามกลางความเป็นไปจึงมีความภาคภูมิใจที่นำมาบอกกัน
แต่ยังมีคนไทยใจชังชาติกลุ่มหนึ่งด่าประเทศตัวเองอย่างไร้สติปัญญา.
“สายล่อฟ้า”