แหล่งรวมเชื้อ...

ระหว่างที่รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยมาตรการเข้มข้นใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นกลไกสำคัญ

แต่ยังไม่ถึงขั้นประกาศ “เคอร์ฟิว” หรือ “ปิดเมือง” ที่เข้มข้นกว่า แต่โดยรูปกระบวนแล้วในรูปแบบที่ใช้อยู่นั้น

ก็ต้องบอกว่าระดับน้องๆเพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นเด็ดขาด

เพียงแต่รอดูว่า “ยา” ที่ให้ไปนั้นจะบรรเทาอาการไข้ได้แค่ไหน หากว่าทำให้เกิดการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างก็ถือว่าโชคดีของคนไทย

ถ้าไม่ดีขึ้นคงจะต้องถึงขั้น “เข้มข้นสูงสุด” ใช้กำลังทหารเข้ามาทำงานอย่างเต็มรูปแบบหรือถ้าว่าทางการเมืองก็คือ “อัยการศึก” ห้ามออกนอกบ้าน 24 ชั่วโมง

จะเอากันอย่างนั้นหรือ?

ว่าไปแล้วในเหตุโควิด-19 ระบาดนั้นมีอยู่ 2 ประเด็นที่เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งเป็นด้านลบและอุปสรรคต่อการจัดการแก้ไข

อย่างหนึ่งก็คือการกักตุน “หน้ากาก” ที่แสดงให้เห็นว่าในความทนทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติก็ยังมี “อมนุษย์” ที่คิดชั่วด้วยใจทรามยังทำมาหากินด้วยวิธีฉ้อฉลเพื่อค้ากำไร

อะไรไม่ว่าเกี่ยวพันไปถึงนักการเมืองด้วย

อย่างหนึ่งคือ “สนามมวย” ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเนื่องจากมีผู้คนเข้าไปรวมกันเป็นจำนวนมากก็รู้กันดีว่าในสนามมวยนั้นแม้จะมองกันว่าเป็นรูปแบบหนึ่ง กีฬาชนิดหนึ่งอันเป็นศิลปะประจำชาติไทยที่ขึ้นชื่อลือชาในระดับโลก

แต่ก็เจือไปเกี่ยวพันกับ “การพนัน” อย่างแยกไม่ออก

ไม่ต่างไปจาก “สนามม้า” ลองวาดภาพดูซิว่าเมื่อเป็นอย่างนี้การเชียร์มวยอย่างมีเดิมพันนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

นั่งชิดติดกันเสียงเชียร์กระหึ่มน้ำลายกระจายไม่ใช่เสียงอย่างเดียว แต่การพนันขันต่อระหว่างยกต่อยกไม่ว่าจะนั่งชั้นไหนไล่ตั้งแต่ริงไซด์หรือชั้นอื่นๆ

...

การต่อรองจึงกระจายไปทั่วทุกชั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อสภาพการณ์เป็นอย่างนี้ใครสักคนติดเชื้อไวรัสไม่รู้ตัวมันก็จะกระจายไปทั่วบริเวณ

“ลุมพินี” สนามมวยแห่งใหม่ของกองทัพบกหลังย้ายจากสนามเก่ากลางเมืองไปอยู่ที่ใหม่ด้วยการพัฒนาให้ทันสมัยเป็น “วิกติดแอร์” อย่างดี

ยิ่งมีรายการใหญ่ๆประกบคู่มวยระดับ “แม่เหล็ก” ผู้ชมก็ย่อม เต็มสนามเพราะมีแรงจูงใจสำคัญเพิ่มความมันส์...ระดับสุดยอด

ปัจจุบัน พล.ต.ราชิต อรุณรังสี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบกเป็น “นายสนาม” เจ้ากรมท่านนี้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ประธานสนามมวยแห่งนี้ซึ่งจะเกษียณอายุราชการปลายปีนี้และมีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนกรณีนี้

เอาความจริงมาว่ากัน “ขุมทรัพย์” สำคัญในความรับผิดชอบของกองทัพบกคือ ทีวีช่อง 5 และสนามมวยลุมพินีแห่งนี้แหละ...

นายทหารท่านใดที่ถูกแต่งไปรับผิดชอบหรือดูแลขุมทอง 2 แห่งนี้จึงต้องไม่ธรรมดา และต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้มีอำนาจในกองทัพบก

ไปไล่เรียงดูรายชื่อนายทหารที่เคยเป็น “นายสมาน” ลุมพินีแห่งนี้ก็พอจะมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าต้องมีสเปกอย่างที่ว่ามานั่นแหละ

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเกิดการแพร่ระบาดจากพื้นที่เสี่ยงแห่งนี้

ประเด็นอยู่ที่ว่ามีคำเตือนจากรัฐบาลแล้วไม่ควรจัดชกมวยก็เป็นกรณีหนึ่ง แต่ปรากฏว่าไม่สนใจยังคงจัดต่อไปด้วยเซียนมวยแห่เข้าไปชมถึง 5,000 กว่าคน เป็นของราชการยิ่งต้องตระหนัก

“น้ำลาย”...เลยพาซวยกันไปหมด!

“สายล่อฟ้า”