ปชป.จี้เขี่ย รมต.โลกลืม

“เสี่ยต่อ” ยันนายกฯยังไม่ส่งซิกปรับ ครม. ลั่นอย่าไปฟังพวกพลทหารให้ฟังแม่ทัพ “เทพไท” ขย่มต่อแนะโละ รมต.โลกลืม “ธนาธร” เจ้าภาพเลี้ยงแกนนำฝ่ายค้าน สรุปบทเรียนหลังศึกซักฟอก “อนุดิษฐ์” รับฟังเสียงสะท้อนของ ส.ส. “ณัฐชา” ถามหามาตรฐาน กกต. ลั่นเตือนอย่าเติมเพลิงเติมไฟให้ลามทุ่ง “บิ๊กตู่” เดินเกมรุก เปิดทำเนียบให้จับเข่าคุยนายกฯ “พีระพันธุ์” ส่ง “วัฒนา” เคลียร์แฟลชม็อบ “ชวน” ชี้ช่อง รธน. 165 เปิดสมัยวิสามัญ แกนนำเด็กระยองโวยโดนข่มขู่คุกคาม “วีระ” ข้องใจใบสั่งดึงเรื่องสอบ “ทวี-ปารีณา” รุกป่า “ปารีณา” ปัดไม่คิดแทรกเเซง ป.ป.ช.แจงที่ดิน “เอ๋” ต้องสอบลึก ศาลปกครองมติเอกฉันท์ส่งชื่อ “บรรจงศักดิ์” นั่งตุลาการศาล รธน.

สังคมยังเฝ้าจับตามองว่าการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะกล้าหาญปรับเปลี่ยนแค่ไหน ล่าสุดนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอนายกฯให้ปรับรัฐมนตรีประเภทโลกลืมไร้ผลงานออกไป เพื่อสร้างภาพลักษณ์รัฐบาลให้ดีขึ้น

...

“เสี่ยต่อ” ยันนายกฯยังไม่ส่งซิก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 มี.ค.ที่มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บางเขน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวภายหลังเปิดโครงการ “ตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์” ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม แจ้งว่าช่วงนี้ไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือเก้าอี้รัฐมนตรี หากนายกฯจะปรับเปลี่ยนคนทำงานก็ต้องเรียกพรรคร่วมรัฐบาลเข้าหารือ เพื่อพูดคุย แต่หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯยังไม่มีการเรียกหารือใดๆเลย “การปรับ ครม.ต้องฟังแม่ทัพ พลทหารจะพูดอะไรไม่ต้องสนใจ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของแม่ทัพ หรือนายกฯ ดังนั้น เรื่องปรับ ครม.ถือว่าจบ ไม่ต้องถามอีก เพราะถามแล้วก็ไม่มีคำตอบให้ ส่วนกระแสกดดันภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการปล่อยโผรัฐมนตรีนั้น ให้ไปถามคนที่พูดในพรรคนั้นเอง ผมตอบได้แค่เรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ตอบแทนพรรคอื่นไม่ได้”

“เทพไท” แนะโละ รมต.โลกลืม

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปรับ ครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เหมาะสม หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะปรับ ครม. ขอเสนอให้ยึดเหตุผล 2 ข้อ คือ 1.ขณะนี้รัฐบาลกำลังประสบปัญหารุมเร้าหลายด้าน เช่น ปัญหาเชื้อไวรัสโควิค-19 ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ปัญหาการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด ต้องคัดเลือกคนดีมีความรู้ความสามารถ มือสะอาด ประวัติส่วนตัวเป็นที่ยอมรับของสังคม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา 2.การปรับ ครม.ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงาน เพราะยังมีรัฐมนตรีบางคนที่ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นรัฐมนตรีที่โลกลืม ควรจะปรับในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้ภาพลักษณ์โดยรวมของรัฐบาลดูดีขึ้น เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้เร็วที่สุด ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ตระหนักถึงความศรัทธาจากประชาชน รัฐบาลจะพบกับวิกฤติศรัทธาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้แน่นอน

“ราเมศ” โว “เฉลิมชัย” ผลงานอื้อ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลงานของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ตลอดระยะเวลาที่นายเฉลิมชัยทำหน้าที่ เช่น แก้ปัญหาภัยแล้งที่ประชาชนเห็นว่าจัดการได้ดีได้ประโยชน์ ทั้งระบบส่งน้ำ ส่งเสริมปลูกพืชอื่นที่มีรายได้สูง ประกันรายได้ สนับสนุนเกษตรอินทรีย์ ส่งออกสินค้า แก้ปัญหาอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โครงการปลูกต้นไม้ลดฝุ่น PM 2.5 สอดคล้องกับผลโพลหลายสำนัก ล่าสุดซุปเปอร์โพลพบว่า ชีวิตของเกษตรกรมีความสุขมากขึ้นมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 67.3 ระดับความสุขของเกษตรกรร้อยละ 66.2 ระบุว่า มีความสุขในชีวิตเกษตรกรไทยมากถึงมากที่สุด

เลือดไหลเหรัญญิก ปชป.ไขก๊อก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เหรัญญิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเหรัญญิกพรรค โดยให้เหตุผลว่ามีภารกิจมากไม่สามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้ แต่ไม่มีผลกระทบกับตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากไม่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งตามกฎหมายพรรค การเมือง และข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ กำหนดให้ กก.บห.สามารถตั้งบุคคลอื่นทำหน้าที่รักษาการแทน มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

“อนุดิษฐ์” รับฟังเสียงสะท้อน ส.ส.

วันเดียวกัน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย พากันวิพากษ์วิจารณ์การทำงานภายในพรรคหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสะท้อนปัญหาข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะต่างๆถือเป็นกระบวนการประชาธิปไตยภายในพรรค จะเป็นประโยชน์โดยรวมกับฝ่ายบริหารนำข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านี้ไปปรับปรุงกระบวนการการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านครั้งนี้เป็นครั้งแรก อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ดังนั้นการถอดบทเรียนร่วมกันจึงเปรียบเสมือนระดมสมองทำให้การทำงานในครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งต่อไปอยู่อีกไม่ไกล เพราะสามารถทำได้ตั้งแต่สมัยประชุมสามัญหน้าเป็นต้นไป ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่นาน ขอรับประกันว่าเมื่อถอดบทเรียนและปรับปรุงการทำงานแล้ว การอภิปรายของพรรคเพื่อไทยจะทำให้ดียิ่งขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ

“ธนาธร” นัดมื้อเย็นแกนนำฝ่ายค้าน

ต่อมาเวลา 17.30 น. สมาชิกและแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ทยอยกันเข้าไปยังร้าน Wine & Dine ซอยทองหล่อ 13 ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จองชั้น 2 ของร้านไว้จำนวน 28 ที่นั่ง เพื่อเลี้ยงขอบคุณ หลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยแบ่งเป็น 2 โต๊ะ แต่ละที่นั่งระบุชื่อผู้ที่มาร่วมรับประทานอาหารอย่างชัดเจน โดยโต๊ะแกนนำมี 10 ที่นั่ง ประกอบด้วย นายธนาธร นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ พรรคพลังปวงชนไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ขณะที่อีกโต๊ะเป็นระดับแกนนำรองลงไป อาทิ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช จากพรรคเพื่อชาติ

“ณัฐชา” ถามหามาตรฐาน กกต.

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. อดีตรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีถือหุ้นบริษัท วีลัคมีเดีย จำกัด ว่า ห้ามเข้าสภาก็แล้ว ยุบพรรคก็แล้ว ตัดสิทธิทางการเมืองก็แล้ว ดูเหมือนว่า กกต.ยังมีความพยายามดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร ทั้งที่หลักฐานการถือหุ้นบริษัทวีลัคฯ ชัดเจนว่าโอนไปหมดแล้ว กกต.รู้หรือไม่ว่าการพยายามดำเนินคดีต่างๆกับนายธนาธร ไม่ใช่แค่การลงโทษนายธนาธร แต่คือการทำลายความชอบธรรมของตนเอง ทำลายความชอบธรรมของการเมืองปัจจุบัน มีคดีมากมายที่มีหลักฐานชัดเจน กกต.สามารถดำเนิน คดีได้ แต่ไม่มีความคืบหน้า หรือมีทีท่าจะดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นด้วยซ้ำ

เตือนอย่าเติมเพลิงเติมไฟ

นายณัฐชากล่าวว่า อยากถามว่า กกต.ออกมาเห็นโลกภายนอกบ้างหรือไม่ ประชาชนรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้นเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ความอดทนของประชาชนหมดลง ทบทวนตัวเองบ้างหรือไม่ว่านักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวในทุกพื้นที่ขณะนี้ ไม่ใช่เพราะนายธนาธรหรือพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไป แต่ต้นเหตุคือการกดขี่และดูถูกประชาชน ความรู้สึกหมดที่พึ่งในองค์กรอิสระ หาก กกต.ตระหนักสักนิดกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับมา คิดว่าตอนนี้ยังทัน อย่างน้อยก็ไม่เติมเพลิงเติมไฟให้ลามทุ่งไปมากกว่านี้

เรียกสอบเสียบบัตรแทนกัน

ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ดำเนินการตามที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีดำริให้ตรวจสอบกรณีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. ระหว่างการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แล้ว ที่ประชุมมีมติเรียก 3 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้อง 2.นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง และนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้ถูกร้อง และ 3.เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้รวบรวมข้อมูล เข้าชี้แจงให้ข้อเท็จจริง ส่วนกรณีอื่นตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าอาจมีการเสียบบัตรแทน อาทิ กรณีของ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลัง–ประชารัฐ กรณีนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กรณีนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท และกรณี น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยข้อมูล ส.ส.เสียบบัตรแทนกันนั้น กมธ.ยังไม่ได้รับเรื่อง ต้องรอให้มีผู้ร้องเข้ามาก่อน ถึงจะตั้งเรื่องตรวจสอบได้

ห้องสุริยันพร้อมเปิดใช้สมัยหน้า

นายเทพไทกล่าวว่า นอกจากนี้ กมธ.ยังรับทราบความคืบหน้าจากผู้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่าห้องประชุมสุริยันก่อสร้างเสร็จแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ทดลองระบบการลงคะแนน ยืนยันว่าหลังเปิดประชุมสภาฯสมัยหน้า จะสามารถใช้ห้องประชุมสุริยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ป.ป.ช.เงื้อง่าตั้งอนุ กก.ไต่สวน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล มีผู้เกี่ยวข้อง 8 คน กรรมการ ป.ป.ช.อยากได้ข้อมูลที่เป็นรายละเอียดของทั้ง 8 คน เพราะเห็นว่ายังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ต้องการลงรายละเอียดให้ชัดเจนว่าทั้ง 8 คนนี้เสียบบัตรของใคร และออกเสียงแทนใคร ต้องรอให้ข้อมูลชัดเจนก่อน คาดว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้ได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ ป.ป.ช.ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ป.ป.ช.เคยมีประสบการณ์สอบสวนเรื่องลักษณะนี้มาแล้ว การสอบสวนกรณีนี้คงไม่ยาก คิดว่าคดีนี้จะเป็น 1 ใน 15 คดีใหญ่ที่ ป.ป.ช.จะทำให้เสร็จภายในปีนี้ได้

“บิ๊กตู่” สับสนอยาก–ไม่อยากค้าความ

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ฟังมาตลอด ใครจะพูดอะไรฟังหมด แล้วนำมาปรึกษาหารือว่าจะทำงานอย่างไร สิ่งสำคัญสุดตอนนี้คือการแก้ปัญหาภัยแล้ง ขอได้เพียงเท่านี้ กรุณาอย่าไปตัดตอนสิ่งที่ตนพูด ไม่เช่นนั้นถือว่าผิด ทุกคนพูดผิดกันได้ วันนี้ขอร้องสื่อและโซเชียลมีเดีย และขอเตือนโซเชียลมีเดียข้อมูลที่เป็นเท็จหรือบิดเบือน มีโทษจำคุกถึง 7 ปี ปรับ 140,000 บาท ต้องระวัง เพราะต้องไปต่อสู้คดีกัน ไม่อยากให้เกิดอะไรกับใคร ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ ไม่อยากให้ใครมีคดี อยากให้บ้านเมืองสงบสุข

เปิดทำเนียบจับเข่าคุยนายกฯ

ก่อนหน้านี้ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียกนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เข้าหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง นายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า นายกฯมอบหมายให้ตน นายณัฏฐพล และนายพุทธิพงษ์ไปหาแนวทางการเปิดรับฟังความคิดเห็นและปัญหาจากประชาชนโดยตรง ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะเชื่อว่าประชาชนอยากพูดคุยกับนายกฯโดยตรงเช่นกัน โดยให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด เพื่อออกนโยบายได้ตรงความต้องการประชาชน และเพื่อพิจารณาได้ทันกับการใช้งบประมาณปี 63 ที่ได้ประกาศใช้แล้ว

ปรับรูปแบบเข้าถึงประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดรับฟังปัญหาจากประชาชนจะเริ่มวันที่ 5 มี.ค. โดยรูปแบบจะเปิดโอกาสให้ตัวแทนประชาชนเข้าพบ นั่งจับเข่าคุยกับนายกฯแบบเปิดอก เพื่อที่รัฐบาลจะได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงโดยตรง ก่อนนำไปประมวลและมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขได้ถูกต้องตรงจุด โดยพยายามเปิดโอกาสให้ตัวแทนประชาชนแต่ละกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย จนถึงคนระดับปานกลาง เข้ามาบอกปัญหากับนายกฯ ส่วนจะเป็นทุกวันพฤหัสบดีหรือไม่นั้น คงต้องดูความพร้อมของทุกฝ่าย โดยเฉพาะนายกฯ เนื่องจากต้องการให้เวลากับในส่วนนี้อย่างเต็มที่ ถือเป็นการปรับรูปแบบการทำงานครั้งสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้การแก้ปัญหาประชาชนเกิดผลสัมฤทธิ์

ส่ง “วัฒนา” เคลียร์แฟลชม็อบ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกลุ่มนิสิต นักศึกษา นักเรียน ชุมนุมแฟลชม็อบเรียกร้องแก้รัฐธรรมนูญ ว่า วันที่ 5 มี.ค. กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการประชุม ตนจะมอบหมายให้นายวัฒนา เมืองสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไปรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ชุมนุมแฟลชม็อบ เพื่อเชิญตัวแทนของกลุ่มนักศึกษาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน กมธ.วิสามัญฯชุดนี้ เพื่อเปิดพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นต่างของคนรุ่นใหม่ ที่อาจเป็นความคิดที่ดีและแตกต่างจากความคิดทางการเมืองรุ่นเก่า ตนยินดีอยู่แล้ว เพราะนักศึกษาถือเป็นประชาชนและเป็นอนาคตของชาติ

“ธนกร” ปีนเกลียวโต้ “ดร.โกร่ง”

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีต รมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลโง่เขลา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังว่า รู้สึกผิดหวังกับนายวีรพงษ์ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เคยเป็นถึง รมว.คลัง น่าจะเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศดี และรัฐบาลไม่ได้โง่อย่างที่ดูแคลน ยังนึกไม่ออกว่าที่ผ่านมานายวีรพงษ์เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หรือเคยทำอะไรให้กับบ้านเมืองบ้าง นอกจากออกมาด่ารัฐบาลด้วยโทสาคติ อาศัยวิกฤติประเทศมาโจมตีรัฐบาล ซ้ำเติมประเทศ เข้าใจดีว่าเคยเป็นทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลแบบนี้ แต่อยากให้นึกถึงความเป็นครูบาอาจารย์ด้วย ไม่ใช่ทิ้งได้ทุกอย่างแม้กระทั่งศักดิ์ศรี เพียงแค่เอาใจใครบางคน

“ชวน” ชี้ช่อง รธน.165 เปิดวิสามัญ

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อรับฟังความเห็นกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา ว่าสามารถทำได้ สมมติว่า ส.ว.เข้าชื่อกัน 250 คนแล้วมี ส.ส. มาลงชื่ออีกเพียง 1 คนก็สามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 123 แต่ก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่จะเสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อเปิดประชุมสมัยวิสามัญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ได้ กรณีอยากรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ทุกฝ่ายจึงควรหารือกัน ประธานรัฐสภาไม่มีสิทธิ์เสนอเอง ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเตรียมการไว้แล้ว ฝ่ายที่สามารถดำเนินการได้สะดวกที่สุด คือฝ่ายบริหาร ส่วนกระบวนการพูดคุยระหว่างคู่ขัดแย้งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง รัฐสภามีหน้าที่อำนวยความสะดวก หาก ส.ส.หรือ ส.ว.ต้องการเสนอสามารถหารือกับรัฐบาลได้ เป็นเรื่องดีที่ร่วมมือแก้ปัญหา

แกนนำเด็กระยองโวยโดนข่มขู่

เมื่อเวลา 12.00 น. นายภานุพงศ์ จาดนอก อายุ 23 ปี แกนนำเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ ยันตรพันธ์ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง โดยระบุว่า เป็นแกนนำร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบ หน้าตลาดเทศบันเทิงพลาซ่า ต.ท่าประดู่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. หลังจากนั้นมีชายฉกรรจ์ผมเกรียนแต่งตัวคล้ายทหารจำนวนหนึ่ง ไปหาที่บ้านแต่ไม่พบ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปคนในบ้านไป นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ขับตามตนเวลาออกไปธุระนอกบ้านลักษณะข่มขู่คุกคาม ทำให้เกรงจะไม่ปลอดภัย จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตนและครอบครัว เหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากกรณีที่ตนเป็นแกนนำจัดแฟลชม็อบ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้เรียกร้องก็ยังดำเนินต่อไป เพราะในแนวทางประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิแสดงออก ตนและนักเรียนนักศึกษา จ.ระยอง จะขอต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตยต่อไป แม้จะตกอยู่ในอันตรายก็ตาม

กมธ.เรียก ตร.แจงคดี “ทวี” รุกป่า

ช่วงเช้าวันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เป็นประธาน เพื่อพิจารณาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง โดยมีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน พล.ต.ต.สุพัฒน์ เชยชิด รอง ผบช.ภ.7 ตัวแทน ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติ (ผบก.ปทส.) ตัวแทนผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เข้าชี้แจง

“วีระ” เชื่ออาจมีใบสั่งดึงสำนวน

นายวีระให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินคดีนายทวี และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกป่านั้น มีการแทรกแซง หรือดึงเรื่องให้คดีล่าช้าหรือไม่ ตัวแทนฝ่ายตำรวจที่ชี้แจงว่าได้ส่งสำนวนคดีเข้าไปยังส่วนกลางที่กองกฎหมายและคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่เมื่อตามเรื่องไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค. กลับไม่มีบุคคลใดยืนยันต่อกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีของ บก.ปทส.ทราบว่าได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ล่าสุดไม่พบการตั้งคณะกรรมการสอบสวน รู้สึกไม่สบายใจหากไม่เร่งติดตาม ไม่ทราบว่าสำนวนคดีนี้จะอยู่ที่ใครหรือใครรับผิดชอบ ต้องติดตามทุกฝีก้าว เชื่อว่าเรื่องนี้อาจมีใบสั่งจากนายตำรวจใหญ่

“ปารีณา” ปัดใช้พลังเเทรกเเซง

ด้าน น.ส.ปารีณากล่าวว่า สงสัยการกระทำของนายวีระ ในฐานะผู้ร้อง ที่ประธาน กมธ.ป.ป.ช.อนุญาตให้ซักถามบุคคลที่เชิญมาชี้แจง ทั้งที่เป็นหน้าที่ของ กมธ.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่ตรวจสอบว่าบุคคลทำผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า การทำคดีรุกป่าของตนและบิดาล่าช้ายืนยันว่าไม่มีการใช้อำนาจใดแทรกแซงเจ้าหน้าที่ ทราบข่าวการออกหมายเรียกจาก บก.ปทส.เช่นกัน แต่ยังไม่เห็นหมายตนและทนายความพร้อมปฏิบัติตามหมายเรียก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่ น.ส.ปารีณาจะให้สัมภาษณ์ พบว่ามีเจ้าหน้าที่จาก บก. ปทส. 3 นายถือแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่มานั่งอยู่บริเวณหน้าห้องประชุม กมธ.ป.ป.ช. โดยเจ้าหน้าที่ บก.ปทส. ดังกล่าวปฏิเสธว่าในแฟ้มไม่มีหมายเรียกใดๆมายื่นให้กับ น.ส.ปารีณา

ป.ป.ช.แจงที่ดิน “เอ๋” ต้องสอบลึก

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ความคืบหน้าการตรวจสอบการครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ของ น.ส.ปารีณา มีการรวบรวมข้อมูลที่มีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว ที่ผ่านมา น.ส.ปารีณามาชี้แจงต่อ ป.ป.ช. 1 ครั้ง แต่ ป.ป.ช.ยังต้องรอข้อมูลจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบจะแยกออกจากการตรวจสอบของหน่วยงานอื่นดูว่ามีความจงใจยื่นบัญชีโดยปกปิดแหล่งที่มาทรัพย์สินหรือไม่ อาจใช้เวลาตรวจสอบเพิ่มขึ้น เนื่องจาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตปี 2561 แตกต่างไปจากเดิม โดยให้ตรวจสอบลงลึกต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีความจงใจไม่แสดงที่มาของทรัพย์สิน ป.ป.ช.ต้องหาพยานหลักฐานที่ชัดขึ้นกว่าเดิมจึงต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิม

มติเอกฉันท์ส่งชื่อ “บรรจงศักดิ์”

วันเดียวกัน นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า มีการประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เพื่อคัดเลือกตุลาการในศาลปกครองสูงสุดให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ที่ประชุมวุฒิสภาให้ความเห็นชอบนายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ที่สำนักงานศาลปกครองเสนอไปด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ว.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ผลปรากฏว่าที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดได้มีมติเป็นเอกฉันท์คัดเลือกนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะส่งชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกไปยังวุฒิสภาต่อไป