“อัครเดช” จี้รัฐบาล ลดราคาเอ็นจีวีเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนรถ EV ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า เร่งรัฐเพิ่มรถเมล์เอ็นจีวี เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการขนส่งเเละการเดินทาง

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายญัตติด่วนให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาและผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งเป็นญัตติที่เสนอร่วมกับ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธาน ส.ส.พรรค ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ว่า ปัญหาฝุ่นละอองส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก แม้รัฐบาลจะออก 12 มาตรการ ในการแก้ปัญหาออกมาแล้ว แต่ที่ผ่านมายังคงเป็นปัญหามา 2 ปี แม้มีการประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ยังไม่เห็นภาพชัด

โดยนายอัครเดช กล่าวว่า รัฐบาลในอดีตเคยสนับสนุนให้ใช้เอ็นจีวี มีราคาจูงใจให้ประชาชนติดตั้งเครื่องยนต์เพื่อใช้แก๊สเอ็นจีวี และตรึงราคาเอ็นจีวีมาโดยตลอด เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้อยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งมาถึงปี 2555 มีการปรับราคาเอ็นจีวีสูงขึ้นด้วยเหตุผลว่า ปตท. นั้นมีสภาพขาดทุน ส่งผลให้ราคาเอ็นจีวีสูงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้รถบรรทุก รถยนต์โดยสาร ต้องเปลี่ยนกลับมาใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากงานวิจัยก็พบว่า ปัญหาฝุ่นละอองมีต้นเหตุส่วนใหญ่มาจากการสันดาปของยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล ดังนั้นด้วยเหตุนี้จึงทำให้รัฐบาลล้มเหลวในการผลักดัน และกระตุ้นมาตรการในการแก้ไขปัญหามลพิษจากระบบคมนาคมขนส่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซึ่งกำกับดูแล ปตท. ให้ลดราคาเอ็นจีวี และทำแผนระยะกลาง ระยะยาว เพื่อให้แก๊สเอ็นจีวีกลับมาเป็นส่วนสำคัญในการลดปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อม และดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาชนกลับมาใช้รถยนต์ที่ติดตั้งเอ็นจีวี และส่งเสริมให้มีรถโดยสารสาธารณะที่ใช้เอ็นจีวีด้วย อีกทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (EV–Electric Vehicle) ในประเทศไทยมีเพียงหลักแสนคัน จึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเช่นกัน

...

นอกจากนี้ การที่รัฐแนะให้ประชาชนหันมาใช้รถสาธารณะ แต่รถสาธารณะที่วิ่งบนท้องถนนมีอายุการใช้งานสูงถึง 30 ปี จึงทำให้ไม่มีความเชื่อมั่นว่า จะทำให้ปัญหาฝุ่นละอองลดลงได้ ขณะที่รถสาธารณะแบบเอ็นจีวี กลับประสบปัญหาการส่งมอบล่าช้า ทำให้รถที่วิ่งใช้งานอยู่ในปัจจุบันมีจำนวนน้อยมาก และเมื่อดูที่ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันก็พบว่า มีราคาสูง ทำให้ต้นทุนการเดินทางของพี่น้องประชาชนสูงและไม่เกิดความจูงใจ ดังนั้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจในการโดยสารรัฐจึงจำเป็นต้องลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าลง

ทั้งนี้ จึงได้เสนอให้ลดราคาแก๊สเอ็นจีวีเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้รถที่ติดตั้งแก๊สเอ็นจีวีเป็นรถสาธารณะ และรถยนต์ส่วนบุคคล พร้อมทั้งลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV เพื่อสนับสนุนให้เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการซื้อรถยนต์ นอกจากนี้ยังแนะให้ลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาเดินทางโดยรถสาธารณะให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกิดจากระบบคมนาคม.