โครงการร่วมทุนมูลค่า พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา-มหานครการบินภาคตะวันออก มูลค่า 2.7 แสนล้านบาท

เป็นเค้กก้อนใหญ่มหึมาที่นายกฯลุงตู่เปิดให้กลุ่มทุนยักษ์แข่งขันชิงสัมปทานยาว 50 ปี กันสุดลิ่มทิ่มประตู

กลุ่มทุนใดเสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงที่สุด จะได้เซ็นสัญญาโครงการร่วมทุนสนามบินอู่ตะเภาไปครอบครอง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ก่อนคณะกรรมการคัดเลือก ซึ่งมี พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร.เป็นประธาน จะได้ฤกษ์เปิดซองราคากลุ่มทุนเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 3 ราย

กลุ่มซีพี ของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ยืนเป็นเต็งหนึ่ง ที่จะได้กินรวบโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ควบโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นแพ็กคู่ทูอินวัน

แต่สุดท้ายเกิดพลิกล็อกถล่มทลาย

กลายเป็น “กลุ่มบีบีเอส” ของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และ เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์ แซงเข้าป้ายแบบหักปากกาเซียน

กลุ่มบีบีเอสเสนอผลตอบแทนสูงถึง 3 แสนล้านบาท

ส่วนกลุ่มซีพีเสนอผลตอบแทนให้รัฐแบบติ๋มๆเพียง 1.1 แสนล้านบาท

น้อยกว่ากลุ่มบีบีเอส 200 เปอร์เซ็นต์

สรุปว่าศึกชิงสัมปทานสนามบินอู่ตะเภาปิดฉากลงด้วยความพ่ายแพ้ขาดลอยของกลุ่มซีพี

“แม่ลูกจันทร์” ยังมีข้อกังขาคาใจอยู่ 2 ประเด็น

1,เหตุใดตัวเลขผลตอบแทนของกลุ่มบีบีเอสกับกลุ่มซีพีจึงแตกต่างกันสุดกู่เกือบ 2 เท่าตัว??

...

เพราะตามปกติของการประมูลชิงโครงการใหญ่ๆข้อเสนอของผู้เข้าแข่งขันจะไม่แตกต่างกันมากมาย

2,เหตุใดกลุ่มบีบีเอสจึงกล้าเสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงถึง 3 แสนล้านบาท

ในขณะที่กลุ่มซีพีและกลุ่มแกรนด์ฯ เสนอผลตอบแทนเพียง 1.1 แสนล้านบาท และ 1 แสนล้านบาทใกล้เคียงกัน

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การที่กลุ่มบีบีเอสกล้าเสนอผลตอบแทนจั๋งหนับบุเรงนอง

แสดงว่ากลุ่มบีบีเอสมั่นใจว่าโครงการร่วมทุนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา 2.7 แสนล้านบาท สัมปทานยาว 50 ปี...

ปิดประตูขาดทุนพันเปอร์เซ็นต์!

เพราะถ้าเอาผลตอบแทนรัฐ 3 แสนล้านบาท หารด้วยสัมปทานระยะยาว 50 ปี

ตกปีละ 6,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 500 ล้านบาทโดยประมาณ

ถ้าเอาผลกำไรบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) ปีล่าสุด 25,000 ล้านบาท มาเทียบเคียง

ข้อเสนอผลตอบแทนโครงการสนามบินอู่ตะเภาปีละ 6,000 ล้านบาท เป็นแค่นํ้าจิ้มเท่านั้นเอง

เพราะสนามบินอู่ตะเภาจะรองรับปริมาณผู้โดยสารที่ล้นจากสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิได้ถึงปีละ 60 ล้านคน

หากสนามบินอู่ตะเภาทำกำไรเฉลี่ย 20,000 ล้านบาทต่อปี

คุณหมอปราเสริฐ-เจ้าสัวคีรี จะมีกำไรแบ่งกันปีละ 14,000 ล้านบาทสบายๆ

รวยแล้วรวยอีก รวยไม่เบื่อบ้างเรอะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”