โฆษกเพื่อไทย ชี้ “สุดารัตน์” ไม่มโน รัฐบาลล็อบบี้ฝ่ายค้านโหวตล้มญัตติตั้งกรรมาธิการมาตรา 44 เชื่อ งูเห่าต่อลมหายใจรัฐบาลได้ไม่ครบเทอม

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มโนไปเอง กรณีพูดเรื่องการแจกกล้วย ส.ส.งูเห่า เพื่อเพิ่มเสียงไม่ให้สภาผู้แทนราษฎรล่ม เพราะเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในวงการเมือง ถึงพฤติกรรมการเมืองน้ำเน่าย้อนยุคของฝ่ายรัฐบาลครั้งนี้ โดยเฉพาะการพยายามโทรศัพท์ล็อบบี้ ส.ส.ฝ่ายค้าน ของแกนนำรัฐบาลบางคนกลางงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลก่อนวันลงมติคว่ำญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 เพื่อโชว์พาวเวอร์แข่งกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล อย่านึกว่าคนภายนอกจะไม่รู้ เพราะฝ่ายค้านเองมีสายข่าวอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน

พร้อมกันนี้ ขอถามว่าจริงหรือไม่ที่การกินเมนูหูฉลามในคืนนั้นทำให้มีควันไฟฟุ้งกระจายไปทั่วห้องอาหาร มีเสียงคล้ายสัญญาณตรวจจับควันดังขึ้น ถ้าเป็นเรื่องจริงอาจเป็นลางร้ายรัฐบาลได้ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง การให้ ครม. ทั้งคณะเปิบเมนูหูฉลามถือเป็นเรื่องไม่สมควร ผู้นำรัฐบาลควรทำตัวเป็นแบบอย่าง แต่โต๊ะอาหารที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะ กลับมีเมนูหูฉลามได้อย่างไร

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังกล่าวอีกว่า เหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมไม่ได้ที่จะให้ตั้งคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว ถึงขนาดยอมใช้บริการ ส.ส.งูเห่าก่อนเวลาอันควร เพราะกลัวการถูกเรียกไปชี้แจงหรือตอบคำถามกับคณะกรรมาธิการ เพราะตอนมีมาตรา 44 ในมือได้กระทำสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากมาย เช่น การสั่งยึดที่ดินตัดไม้สวนป่าของชาวบ้านที่ไม่ใช่ฝ่ายตัวเอง การสั่งปลดข้าราชการโดยไม่มีการสอบสวน และเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ กลัวสุดคือ การใช้มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทองอัครา จนเป็นที่มาของการฟ้องร้องระหว่างเหมืองทองกับรัฐบาล อาจเสียค่าโง่กว่า 30,000 ล้านบาท จนถึงวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยปริปากพูดเรื่องนี้ นอกจากพูดปลอบใจ ครม. ว่าจะรับผิดชอบเพียงคนเดียว แต่ไม่เคยพูดว่าจะรับผิดชอบอย่างไร

...

ดังนั้น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ควรเอาเวลาไปช่วยคิดเรื่องการจ่ายค่าโง่เหมืองทองจะดีกว่า หากรัฐบาลแพ้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าหวังว่าการใช้บริการงูเห่าจะต่อลมหายใจรัฐบาลจนอยู่ครบเทอมได้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่หมดศรัทธาต่อรัฐบาลไปนานแล้ว โดยเฉพาะการไม่รักษาคำพูดตามที่ได้หาเสียงเอาไว้ เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท ที่ปรับได้แค่ 5-6 บาท ถือเป็นโมฆะบุรุษที่เชื่อถือไม่ได้ ต่อให้มีงูเห่าอีก 100 ตัว คงช่วยอะไรไม่ได้.