จับตาดูพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) จะมีม็อบตัวแทนเกษตรกรทั่วประเทศนัดชุมนุมคัดค้านมติ ครม.สั่งแบนสารเคมี 3 ชนิด (สารไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต) ให้อยู่ในบัญชีวัตถุอันตราย

ห้ามนำเข้า ห้ามครอบครอง ห้ามกักตุน ห้ามซื้อ ห้ามขาย และห้ามใช้ ทุกกรณี!!

ห้ามเด็ดขาดทันที ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ แกนนำเครือข่ายเกษตรกร ประกาศจะขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนคำสั่งแบนสารเคมี 3 ชนิดอีกครั้ง

เนื่องจากเป็นสารเคมีที่พี่น้องเกษตรกรใช้มายาวนาน

และยังไม่มีสารเคมีชนิดอื่นๆใช้ทดแทนสารเคมีที่รัฐบาลสั่งแบน

การที่รัฐบาลประกาศให้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดกลายเป็น “วัตถุอันตราย” สั่งให้เกษตรกรต้องทำลายสารเคมีทั้งหมดภายใน 15 วัน

ทำให้พี่น้องเกษตรกรได้รับผลกระทบเต็มเปา

เพราะซื้อสารเคมีมาใช้ก็ไม่ได้ใช้ แถมเงินที่จ่ายไปก็สูญฟรี

เข้าตำราเนื้อไม่กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ

“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่รัฐบาลสั่งแบนสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน

แต่ไม่เห็นด้วย ที่รัฐบาลสั่งแบนแบบปุบปับโครมคราม

โดยไม่เผื่อเวลาให้เกษตรกรปรับตัว

ข้อสำคัญ ก่อนที่จะออกมติ ครม.รัฐบาลควรเปิดกว้างรับฟังความเห็นจากเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อเอาข้อดีข้อเสียไปชั่งนํ้าหนักให้ชัดเจน

แสดงให้เห็นความบกพร่อง ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุมในการแก้ไขปัญหาสารเคมีอันตรายของรัฐบาลลุงตู่เอง

...

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการสั่งแบนสารเคมีที่พี่น้องเกษตรกรใช้มายาวนานจะส่งผลกระทบฐานคะแนนรัฐบาลระยะยาว

แต่ก็มีประชาชนที่เชียร์ให้รัฐบาลแบนสารเคมีอันตรายจำนวนมากเช่นกัน

รัฐบาลจะบริหารความพอใจของประชาชน 2 กลุ่มอย่างไร??

มีทางออกได้ 3 ประตู...

ประตูที่ 1 เดินหน้าเต็มลูกสูบ เพื่อป้องกันสุขภาพประชาชนไม่ให้เป็นอันตรายจากสารเคมี

ประตูที่ 2 เลื่อนคำสั่งแบนสารเคมีออกไประยะหนึ่ง เพื่อให้เกษตรกรมีเวลาปรับตัว

ประตูที่ 3 ยกเลิกมติ ครม.ที่สั่งแบนสารพิษ 3 ชนิดไปก่อน จนกว่าจะมีสารเคมีชนิดอื่นทดแทน

“แม่ลูกจันทร์” ประเมินแนวโน้มรัฐบาลลุงตู่จะเลือกประตูที่ 2

ยอมเลื่อนคำสั่งแบนสารเคมี 3 ชนิด จากวันที่ 1 ธันวาคม ออกไปก่อนชั่วคราว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ติ๊ดชึ่งออกตัวจะประชุมพิจารณาการแบนสารเคมีอย่างรอบคอบอีกครั้ง

เพื่อฟังมติ กก.ส่วนใหญ่ว่าควรเลื่อน? หรือไม่เลื่อนดี?

เนื่องจากผลประชาพิจารณ์ล่าสุดจากกลุ่มตัวอย่าง 4.8 หมื่นราย

ปรากฏว่า 75 เปอร์เซ็นต์ “ไม่เห็นด้วย” ที่รัฐบาลสั่งแบนสารเคมีทั้ง 3 ตัว

ส่วนกลุ่ม “เห็นด้วย” ที่รัฐบาลสั่งแบนสารเคมี

มีแค่ 25 เปอร์เซ็นต์

อ้าว...กระแสตีกลับซะแล้วโยม.

“แม่ลูกจันทร์”