กมธ.ดีอีเอส เชิญ "กสทช.-ทีโอที" แจงโครงการ "เน็ตประชารัฐ" หลังไม่เสร็จตามกำหนด ชี้กระทบ "เศรษฐกิจ-การแพทย์ทางไกล-การศึกษา" จี้เร่งหาผู้ทำโครงการรายใหม่ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เล็งลงพื้นที่อีสานทดสอบเน็ตชายขอบ

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส โดยได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มาชี้แจงกรณีการดำเนินโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์ความเร็วสูงในพื้นที่ทุรกันดา(เน็ตประชารัฐ) หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.ย.62 เป็นวันสิ้นสุดตามกรอบเวลา ที่บริษัททีโอทีขอขยายเวลามาจาก 27 ก.ย.61 แต่ยังมีหลายพื้นที่ติดตั้งไม่เสร็จ และ กสทช.ได้มีการยกเลิกสัญญากับบริษัททีโอทีไปแล้ว

โดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธานกรรมาธิการ ดีอีเอส กล่าวว่า ทางตัวแทนของ กสทช.ได้มาชี้แจงถึงโครงการเน็ตประชารัฐว่า จะมีแนวทางดำเนินการต่อไปอย่างไร หลังจากที่ยกเลิกสัญญากับบริษัททีโอที ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอตรวจรับงานที่ บ.ทีโอที ทำไว้ว่ามีความคืบหน้าแค่ไหนอย่างไร เหลืองานอีกมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจะมีการเปิดประมูลรับผู้ดำเนินการรายใหม่ ซึ่ง กสทช.คาดว่าภายในเดือน เม.ย.ปี 63 จะสามารถเปิดประมูลได้ ทั้งนี้ทางกรรมาธิการฯเรามีความห่วงใยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทำให้ประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทห่างไกลต้องเสียโอกาส การได้ใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงกับนโยบาย "Telemedicine" หรือการแพทย์ทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือจะเป็นประโยชน์ด้านการศึกษา ที่เด็กๆสามารถหาความรู้หรือเรียนออนไลน์ได้ ที่สำคัญคือมีผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ที่จะพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต

...

น.ส.กัลยา กล่าวต่อว่า ทางกรรมาธิการฯไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะการดำเนินโครงการไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้นั้น มีผลกระทบต่อประชาชนผู้รอใช้บริการ ดังนั้นทาง กมธ.ดีอีเอส จึงได้กำชับไปยัง กสทช.และฝากไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส เร่งดำเนินการให้โครงการเน็ตประชารัฐสำเร็จโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ ซึ่งทางกรรมาธิการฯจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด โดยมี พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กมธ.อีดีเอส ในฐานะเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการติดตามการดำเนินโครงการต่อไป

อย่างไรก็ตามทาง กมธ.ดีอีเอส มีแผนที่จะลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะลงพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.หนองบัวลำภู ทั้งนี้กรรมธิการฯต้องการที่จะไปสัมผัสพื้นที่จริง ที่มีการติดตั้งจุดปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตว่าสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพหรือไม่ ความเร็วเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ตอบโจทย์ของประชาชนในพื้นที่หรือไม่ เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการดังกล่าวในอนาคตอย่างมาก