ส่วนราชการที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากที่อื่นหลายๆแห่งก็คือส่วนราชการที่อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการหรือสภา
ที่เป็น คณะกรรมการ มีตัวอย่างเช่น คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน มี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงาน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ มี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นมือเป็นไม้ให้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นตัวจักรกล
หัวหน้าใหญ่ในฝ่ายราชการประจำมักเรียกว่า เลขาธิการ เพราะทำหน้าที่เลขานุการในคณะกรรมการนั้นๆด้วย โดยเรียกกันเป็นที่เข้าใจ ว่า เลขาธิการ ก.พ. บ้าง เลขาธิการ ก.พ.ร. บ้าง ซึ่งรายสุดท้ายไม่ยักเรียกว่า เลขาธิการ ก.ล.ท. แต่ผ่าไปเรียกว่า เลขาฯบีโอไอ เป็นคำลูกผสมเพราะต้องทำงานกับต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
ที่เป็นสภาก็มีอย่างเช่น สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ คนที่เป็นหัวหน้าใหญ่ในฝ่ายราชการประจำจะถูกเรียกว่า เลขาฯสภาพัฒน์ บ้าง เลขา สศช. บ้าง อีกแห่งเห็นเรียกว่า เลขา สมช. กันเป็นอาจิณเหมือนกับตำแหน่งที่เป็นราชการพลเรือน แต่โอนทหารมาครองแทนเป็นอาจิณ ครั้งหลังๆนี้ถึงขนาดเอาทหารมาจ่อเป็นรองเลขาธิการด้วยซ้ำไป ข้าราชการพลเรือนแท้ในหน่วยนี้อยู่ไปก็ไลฟ์บอยเพราะไม่มีโอกาสขึ้นเป็นนายใหญ่ในหน่วยงาน
ที่หยิบยกเรื่องนี้มาปรารภก็เพราะว่าหน่วยงานในลักษณะนี้มีอยู่ไม่น้อย ในขณะที่หน่วยราชการในรูปแบบของ สำนัก ซึ่งเป็น สำนัก ที่ใหญ่กว่ากรม เพราะเทียบเท่ากระทรวงที่มีอยู่ 2 แห่ง คือ สำนักงบประมาณ กับ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ มีหัวหน้าหน่วยที่เรียกว่า ผู้อำนวยการ นั้นมีศักยภาพสูงจนกระทั่งไม่มีใครกล้าแตะ พอตำแหน่งว่างก็จะได้ คนเป็นรอง เลื่อนไหลขึ้นมาอย่างสง่างาม
ในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงในส่วนของสภาและส่วนของผู้บริหารในฝ่ายราชการประจำอยู่แห่งหนึ่งคือ นายกราชบัณฑิตยสภา และหัวหน้าใหญ่ในฝ่ายราชการประจำ ที่เรียกว่า เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา
...
กล่าวคือมีการเปลี่ยนแปลง นายกราชบัณฑิตยสภา เมื่อเดือนเมษายน 2562 เนื่องจากนายกคนเก่าครบวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ก็ได้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สุรพล อิสรไกรศีล เป็น นายกราชบัณฑิตยสภา คนใหม่แทน
พอถึงตอนสิ้นปีงบประมาณ ผู้บริหารในฝ่ายราชการประจำของหน่วยงานนี้ ที่เรียกว่า เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา คือ นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ ก็เกษียณอายุราชการไปพร้อมกับรองเลขาธิการ มีการแต่งตั้ง นางดวงตา ตันโช จากตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็น เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา คนใหม่
ดีนะที่ฝ่ายทหารไม่ได้พิศวาสตำแหน่งนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะได้เฮกันอีกสักตั้งหากได้พลเอกอะไรมาเป็น เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา เอ...หรือว่าทำไม่เป็น
ไหนๆก็เขียนถึงเรื่องราวหน่วยงานนี้แล้วจะขอต่ออีกทีในวันพรุ่งนี้ถึงที่ไปที่มาของนายกราชบัณฑิตยสภาคนปัจจุบัน ตลอดไปจนถึงภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นชมรมนักปราชญ์แห่งแผ่นดิน.
“ซี.12”