(ภาพ) โจชัว หว่อง

ปฏิกิริยาจากรัฐบาลจีนแสดงความไม่พอใจที่นักการเมืองไทยได้ไปพบกับ “โจชัว หว่อง” แกนนำคนสำคัญที่ต่อต้านจีนแสดงท่าทีสนับสนุนจึงร้องเตือนอาจจะเกิดปัญหาด้านมิตรภาพได้

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ แม้ไม่ใช่เรื่องขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ แต่ก็มีผลต่อประเทศไทยเต็มๆ

เมื่อสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อความระบุถึงสถานการณ์การชุมนุมที่ฮ่องกงที่ยืดเยื้อมานาน

กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนยังได้สมคบกับกลุ่มอิทธิพลภายนอกเผยแพร่ข่าวลือ บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อวัตถุประสงค์ที่มิอาจเปิดเผยของตน

“นักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีน โดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน”

“ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ”

“ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกงใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน–ไทย”

แม้ไม่ได้ระบุว่านักการเมืองคนนั้นคือใคร?

แต่ก็เป็นที่รับรู้กันได้ว่าผู้นั้นคือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เพราะจากภาพข่าวรูปคู่ระหว่าง “ธนาธร-โจชัว หว่อง” ที่ฮ่องกงก่อนหน้านี้

...

“โจชัว หว่อง” คือแกนนําคนสำคัญของกลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลฮ่องกง

นับแต่การเรียกร้องประชาธิปไตยต่อต้านรัฐบาลจีน ที่เรียกว่าปฏิบัติการ “ร่ม” จนมาถึงการชุมนุมประท้วงกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน

บานปลายกลายเป็นปฏิบัติการขอแยกดินแดนฮ่องกงจากจีน

พูดง่ายๆว่าเป็นศัตรูกับรัฐบาลจีนโดยตรง

การที่นายธนาธรเดินทางไปพบกับนายโจชัว หว่อง ระหว่างที่มีการชุมนุมที่ฮ่องกง และได้โพสต์ภาพดังกล่าวออกมาเปิดเผยโดยแกนนำม็อบฮ่องกง

อีกทั้งนายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์ที่นั่นด้วยว่า “โจชัว หว่อง” เป็นไอดอลของเขาที่มีแนวทางเดียวกัน

เพียงแต่เงื่อนไขที่จะปลุกระดมนั้นยังไม่เหมาะสมเพราะประชาชนยังไม่พร้อม จึงเลือกที่จะตั้งพรรคการเมืองต่อสู้ในสภามากกว่า

นี่เป็นเหตุผลที่มาของพรรคอนาคตใหม่

มีข้อมูลลึกๆด้วยว่านายโจชัว หว่อง นั้นเคยเดินทางมาประเทศไทยและได้พบกันมาหลายครั้งแล้ว

เหล่านี้คือที่มาที่ไปทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

ปฏิกิริยานี้คงเป็นเสียงเตือนที่ทำให้รัฐบาลไทยต้องหาทางคลี่คลายอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะบานปลายไปมากกว่านี้อย่างน้อย 3 ประเด็น

1.ต้องปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้ามเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดี

2 .ติดต่อรัฐบาลกลางของจีนโดยตรงเพื่อทำความเข้าใจ

3 .ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับหัวหน้าพรรคการเมืองคนนั้น

สิ่งที่ต้องยอมอย่างหนึ่งไทยกับจีนนั้นมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยาวนาน ยิ่งกว่านั้นคนไทยเชื้อสายจีนได้อพยพมาอยู่ในเมืองไทยจำนวนมาก

แม้แต่ตระกูลของ “ธนาธร” เองก็เช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมาดูเหมือนรัฐบาลจีนมองไทยอย่างแยกส่วน อย่างเรื่องนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยเป็นจำนวนมากก็ได้รับการผลักดันจากรัฐบาลของเขา

พูดง่ายๆว่าเยียวยาเศรษฐกิจไทยให้ยืนอยู่ได้

หากแค่มีการกดปุ่มห้ามนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยก็เป็นเรื่องใหญ่ทันที

นี่ไม่ใช่แค่ “ชังชาติ” เท่านั้น แต่อาจถึงขั้น “ทำลายชาติ” อีกด้วย!!!

“ลิขิต จงสกุล”