ปลัดกระทรวง อว.สั่งอุทยานวิทย์ภูมิภาค ลุยขยายเครือข่ายเพิ่ม ผลักดันโครงการนวัตกรรมเพื่อสังคม ขจัดความจน ลดเหลื่อมล้ำ อนุมัติ ”ม.อุบลราชธานี” เป็นแม่ข่าย เผยทิศทางอุทยานฯ เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์แก่ผู้รับบริการ

วันที่ 20 ส.ค. รศ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยหลังประชุมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า การทำงานของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค จะไม่ทำงานเพียงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เน้นเรื่องของสังคมศาสตร์และวัฒนธรรมเชิงพื้นที่ เพื่อให้เกิดงานวิจัยที่หลากหลาย อีกทั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคจะต้องขยายเครือข่ายซึ่งจากเดิมมีเพียง 11 มหาวิทยาลัย และ 2 ราชภัฏ เท่านั้น โดยจะต้องดึงมหาวิทยาลัยและราชภัฏเข้ามาเป็นเครือข่ายใน 10 ภูมิภาคของประเทศและผลักดันให้เกิดโครงการนวัตกรรมเพื่อสังคม (Social Innovation) คือ การประยุกต์ใช้ความคิดใหม่และเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการยกระดับคุณภาพชีวิต ชุมชนและสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่ความเท่าเทียมกันในสังคม และสามารถลดปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ขจัดความยากจน ขจัดความหิวโหย การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การศึกษาที่เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ

...

ปลัด อว.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ให้เพิ่มอาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค จากเดิม มีที่แม่ข่าย 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลานครินทร์ และสุรนารี โดยในปีงบประมาณ 2563 จะมีการก่อสร้างอาคารอำนวยการใหม่ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ส่วนการดำเนินงานของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคในอนาคตให้ดำเนินการเฉพาะด้านมากขึ้น เช่น อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ ให้เน้นเรื่องข้าว อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ เน้นเรื่องทะเล เป็นต้น รวมทั้งมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแก่ผู้รับบริการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อว. ที่ต้องการพัฒนากำลังคนและสถาบันความรู้ และมีการวิจัย และสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม เช่น เรื่องทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และการเกษตร โดยมีการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เช่น การพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม และมีการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ เช่น นวัตกรรมสำหรับเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนนวัตกรรม ขจัดความยากจนและเหลื่อมล้ำแบบแม่นยำ เป็นต้น