ครม.ไฟเขียวแผนฟื้นฟู ขสมก.ลุยซื้อรถใหม่ ปรับปรุง 3 พันคัน ลดพนักงานใน 3 ปี ใช้งบฯ จ้างพนักงานออก 6 พันล้าน ชงคลัง ล้างหนี้ 1.2 แสนล้าน เชื่อ หากทำได้ องค์กรจะยืนบนขาตัวเองได้ตั้งแต่ปี 2566

วันที่ 25 มิ.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติแผนฟื้นฟูองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งแผนนี้ได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 57 ซึ่งจะทำให้ ขสมก.สามารถดำเนินการจัดหารถใหม่เมล์เอ็นจีวี รถเมล์ไฮบริด และรถเมล์ไฟฟ้าEV และการปรับปรุงสภาพรถเมล์เดิม ซึ่งการจัดหารถเมล์ใหม่ จะแบ่งเป็นการเช่า และการจัดซื้อรถเพื่อเพิ่มประสิทธิการการบริการ รวมทั้งสิ้น 3,000 คัน จากเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้ที่ 3,183 คันมูลค่า 13,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอทบทวนมติ ครม. โดยอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสภาพัฒน์ ทั้งนี้ ในแผนฟื้นฟูที่ให้เช่ารถและจัดหารถ จะมีการเช่ารถจำนวน 700 คัน ประกอบด้วย รถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน รถไฮบริด 400 คัน ส่วนการจัดหารถใหม่นั้นรวม 2,300 คัน แบ่งเป็น จัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้ว จัดหารถไฮบริด 1,453 คัน รถเมล์ไฟฟ้าEV 35 คัน และรถปรับปรุงใหม่ 323 คัน

นอกจากนั้น ขสมก.จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้กับรถเมล์ที่วิ่งให้บริการ ทั้งการติดตั้งระบบเก็บเงินแบบดิจิทัล หรือ E-Ticket ให้ผู้โดยสารชำระค่าโดยสารด้วย คิวอาร์โค้ด โดยจะติดตั้งระบบจีพีเอส รวมถึงให้บริการไวไฟบนรถเมล์ที่ให้บริการ ขณะที่ ขสมก.จะมีการปรับปรุงเส้นทางเดินรถเมล์ใหม่ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้า โดยจะปรับเส้นทางรถจากปัจจุบันให้บริการอยู่ 117 เส้นทาง เป็น 137 เส้นทาง ซึ่งขั้นตอนของการปรับปรุงเส้นทางนั้น ขณะนี้ทางกรมการขนส่งทางบกเตรียมเสนอให้สภาพัฒน์ฯ พิจารณา

...

นายอาคม กล่าวต่อว่า ขสมก.จะต้องมีการเปิดโครงการสมัครใจ ร่วมใจจาก (เออร์รี่ รีไทร์) พนักงาน ขสมก.รวมทั้งสิ้น 5,000 คน จากพนักงาน ขสมก.ทั้งหมด 13,000 คน โดยในแผนฟื้นฟูได้ระบุว่า พนักงานประจำรถ ขสมก.1 คัน จากเดิมมีพนักงานประจำรถ 5.14 คน/คัน ต้องลดลงเหลือ 2.7คน/คัน โดยโครงการดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่ปี 63-65 โดยในปี 63 ลดพนักงาน ขสมก.ลง 700 คน ปี64 ลดพนักงาน ขสมก.จำนวน 2,198 คน และ ปี65 ลดพนักงานจำนวน 2,198 คน ซึ่งพนักงานที่เข้าโครงการเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรให้เล็กลง ขสมก.จะต้องใช้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ให้เกิดประสิทธิภาพ ขสมก.จะเดินหน้าพัฒนาเชิงธุรกิจเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับ ขสมก. โดยจะนำที่ดินที่อยู่ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ 2 แห่ง มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ คือ พื้นที่บริเวณอู่บางเขน และ พื้นที่อู่มีนบุรี นอกจากนั้น ในแผนฟื้นฟูจะมีการดำเนินการบริหารหนี้สินที่ ขสมก.มีอยู่ในปัจจุบันจำนวนกว่า 120,000 ล้านบาท โดยจะเสนอกระทรวงการคลัง ให้รับภาระหนี้สินแทน ซึ่งในส่วนนี้ต้องไปพิจารณาว่า มีหนี้ส่วนใดบ้าง เช่น หนี้ที่เกิดจากนโยบายกว่า 80% และหนี้เพิ่มประสิทธิภาพ กว่า20% ประกอบด้วยหนี้ค่าซ่อม หนี้ค่าน้ำมัน หนี้เงินกู้มาจ่ายดอกเบี้ย เป็นต้น ซี่งจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา1 ชุด เพื่อพิจารณาหนี้สิน

นายประยูร ช่วยแก้ว ผอ.ขสมก. กล่าวว่า ประชาชนจะเห็นรถเมล์ใหม่ที่จะเข้ามาให้บริการ 1,053 คัน เริ่ม เดือนมิ.ย.63 แบ่งเป็น ซ่อมปรับปรุงรถเก่า323 คัน และเช่าเอ็นจีวี 300คัน ไฮบริด 400 คัน และรถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน นอกจากนั้น ตั้งแต่ปัจจุบัน ถึงปี 66 ขสมก.จะใช้อัตราค่าโดยสารตามที่คณะกรรมการขนส่งทางบกอนุมัติไว้ปลายปี 61 และปลายปี 67 ตามแผนฟื้นฟูจะเสนอขอคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางปรับค่าโดยสารอีก 1 บาท/คน/เที่ยว อย่างไรก็ตาม หาก ขสมก.ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูจะทำให้ ขสมก.อยู่ได้และเดินได้เองได้ ตั้งแต่ปี 66 จนมาถึง ปี 88 ขสมก.จะสามารถใช้หนี้ได้ครบเต็มจำนวน...