กรุงเทพโพลล์ พบส่วนใหญ่ร้อยละ 65.6 เห็นว่า รัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพและความมั่นคง ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด เผชิญความขัดแย้งในพรรคร่วม จี้เพิ่มรายได้ประเทศ-ประชาชน
กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดําเนินการสํารวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “มุมมองประชาชน
ต่อความท้าทายที่รัฐบาลใหม่ต้องเผชิญ” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 65.6 เห็นว่ารัฐบาลใหม่ จากการผสมกว่า 19 พรรคการเมือง จะมีเสถียรภาพและความมั่นคงค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 34.4 เห็นว่า จะมีเสถียรภาพและความมั่นคงค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
สําหรับสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะเผชิญกับความท้าทายด้านเสถียรภาพทางการเมืองมากที่สุดคือ ความขัดแย้งในพรรคร่วม
รัฐบาล การจัดสรรตําแหน่ง โควตารัฐมนตรี คิดเป็นร้อยละ 64.1 รองลงมาคือกระแสข่าวโจมตีรัฐบาลคิดเป็นร้อยละ 43.8 และจำนวนเสียงที่ใกล้เคียงกันระหว่าง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน คิดเป็นร้อยละ 41.6
ส่วนนโยบายที่รัฐบาลใหม่ ควรเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศและแก้ปัญหาต่างๆ สานต่อจากที่ค้างคาไว้ในอดีต แบบไร้
รอยต่อพบว่า อันดับแรกคือ ช่วยเหลือผู้ยากจน ลดความเหลื่อมลํ้าของสังคม คิดเป็นร้อยละ 59.6 รองลงมาคือ ปฏิรูป
เศรษฐกิจการลงทุน ที่มีนวัตกรรมและการวิจัย คิดเป็นร้อยละ 58.1 และต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น คิดเป็นร้อยละ 44.7
สุดท้ายเมื่อถามว่า นโยบายหาเสียงของฝ่ายรัฐบาล ที่อยากให้รีบดําเนินการมากที่สุด คือเพิ่มรายได้ประเทศ เพิ่มรายได้ประชาชน คิดเป็นร้อยละ 53.1 รองลงมาคือ ทวงคืนกำไรให้ชาวสวน ชาวนา คิดเป็นร้อยละ 51.5 และเศรษฐกิจประชารัฐคิด เป็นร้อยละ 45.3