ไปซ้ายก็ด่า ไปขวาก็โวย ดูแล้วหนีไม่พ้นพวกอันธพาลการเมือง

จ้องหาเรื่องรุมกินโต๊ะ

คิดในมุมบวก มันถือเป็นวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันความแกร่งของ “มือใหม่หัดจัดเลือกตั้ง”

หลังจากนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ยอมรับ “ทางตัน” เพราะข้อปมลักลั่นทางกฎหมายระหว่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (2) (4) กับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตั้ง ส.ส.มาตรา 128

โดย กกต.มีวิธีการคิดคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไว้แล้ว แต่การคิดคำนวณดังกล่าวอาจทำให้พรรคการเมืองบางพรรคที่มีจำนวน ส.ส.ที่จะพึงมีได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน ได้จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน กกต.จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่

และการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่

ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นหนทางที่ถูก เพราะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร

แต่ยังไงมันไม่ถูกใจอยู่ดี ในอารมณ์แบบที่ขาเฮี้ยวพรรคเพื่อไทย จอมเก๋าพรรคประชาธิปัตย์ ไปยันนักวิชาการร้อนวิชา แห่ออกมารุมด่า กกต. “ปอดแหก” ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยการันตี

ไม่กล้าใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองในการ “ทุบโต๊ะ”

ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็รุมอัด กกต.อย่าใช้อำนาจตามอำเภอใจเอื้อบางพรรคการเมือง

เรื่องของเรื่องตามสันดานนักการเมืองยังไงก็หาเรื่องด่าตีกินได้วันยังค่ำ

ลากผลประโยชน์เข้าเหลี่ยมตัวเองไว้ก่อน

แต่อย่างน้อยฟังจากคนกลางๆที่ไม่มีเหลี่ยมแฝงเข้าทางฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกับมุมของนายโคทม อารียา อดีต กกต. ที่มองว่า น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับ กกต. เพราะในเวลานี้เปรียบเหมือนมี 2 สำนักที่นำเสนอสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผลการคำนวณก็แตกต่างกันมาก จึงทำให้ กกต.ไม่อาจที่จะตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่งได้

...

เอาเป็นว่า กกต.ดำเนินการตามหลักกฎหมาย โดยอิงรัฐธรรมนูญเป็นกำแพง

โดยรูปการณ์แสดงออกให้เห็นถึงความพยายามใช้อำนาจหน้าที่อย่างระมัดระวัง ไม่สุ่มเสี่ยง

สวนทางกับเสียงครหา เสียงโห่ฮา ขู่ กกต.ระวังติดคุก เพราะเอื้อประโยชน์ให้บางพรรคการเมือง ในการสืบอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.

ดักคอ ดักทาง แห่ตีปี๊บในโซเชียลฯ ชิงพื้นที่สื่อกดดันกันอึกทึกครึกโครม

แต่ในหมู่สังคมอุดมปัญญาย่อมตั้งสติคิดกันได้ กรณี กกต. ชุดปัจจุบัน พฤติการณ์ไม่เหมือนตัวอย่าง “กกต.อย่างหนา” ชุดที่ติดคุกตอนแก่ เพราะตามแห่พวกเหลิงอำนาจ ลุยถั่วตามคำสั่ง “นายใหญ่” ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองของระบอบทักษิณอย่างออกหน้าออกตา

นอกจากไม่ปรึกษาองค์กรทางกฎหมาย ยังไม่ฟังคำเตือน ไม่แสดงถึงความพยายามในการแสดงความระมัดระวังในการใช้อำนาจ มีแต่อาการย่ามใจในความเบ็ดเสร็จของเผด็จการรัฐสภา

วิบากกรรมมันเลยตามสนอง ไม่ต้องห่วงว่าคนอื่นจะย่ำรอย.

กำปั้นหยก
mudlek@thairath.co.th