พระเอกลิเกเล่นบทเดิมๆซ้ำๆ คนดูจำท้องเรื่องได้จนเซ็งแล้ว

ในเมื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศไม่เกรงใจกันอีกต่อไป ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกัน

แรงส์ แหลงใต้กันตรงๆสไตล์ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยถิ่นปักษ์ใต้ พูดกันแบบนักเลงไม่ไว้หน้า แฝงอารมณ์หมั่นไส้

“ถ้าไม่ใช่ผม ไม่รู้ชาติหน้าอภิสิทธิ์จะได้เป็นนายกฯหรือไม่”

วันนี้นายอภิสิทธิ์ประกาศมาแล้ว เลือกตั้งคราวนี้เขาไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนเองข้องใจอยากถามอภิสิทธิ์ตกลงอยู่ข้างเดียวกับทักษิณเต็มตัวใช่หรือไม่

นี่แสดงว่า ถ้าฝ่ายทักษิณเทคะแนนให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เอาทันทีใช่หรือไม่

ตามข่าวใช้คำแรงๆแบบที่ว่า “อยากเป็นนายกฯจนลืมหัวกูเลยใช่มั้ย”

หรือในอารมณ์แสบนิ่มๆสไตล์คนพูดไม่เก่งแบบนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังแอบเหน็บเจ็บลึกๆ อยากสอบถามนายอภิสิทธิ์ว่า หากไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หมายความว่าจะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่

เพราะขณะนี้การเมืองไทยมีอยู่เพียง 3 ขั้วเท่านั้น คือ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ การประกาศท่าทีเช่นนี้ แสดงว่านายอภิสิทธิ์จะไปร่วมกับเพื่อไทย

ไม่เว้นสไตล์ยียวนกวนบาทาแบบ “เสี่ยโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย “ทักษิณ” ก็ดักคอตามเทรนด์ “พี่มาร์คอย่าคบซ้อน” เกาะกระแสเกลียดปลาไหล (เผด็จการ) แต่รอกินน้ำแกง (ร่วมรัฐบาล)

รุ่นเก๋า รุ่นใหญ่ รุ่นเด็ก ดักทางถูกหมด

ทุกคนรู้ทาง แต่เจ้าตัว “อภิสิทธิ์” เองที่ดักหน้าดักหลังตัวเอง จนหาทางออกไม่เจอ

เพราะก่อนหน้านั้น “อภิสิทธิ์” ก็เพิ่งประกาศจะไม่มีวันยอมให้พรรคที่ทุจริตมานำประเทศ ไม่เอาทั้งพรรคพวกบกพร่องโดยสุจริตหรือทุจริตเชิงนโยบาย เอาเสียงของประชาชนมาให้กับคนกลุ่มเดียว โดยไม่ได้ระบุตรงๆว่าเป็นยี่ห้อไหน แต่มันเดาทางได้ ไม่หนีคู่กัดถาวรเครือข่าย “ทักษิณ”

...

แล้วก็มาประกาศไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐ ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจ

สรุปซ้ายก็ไม่ไป ขวาก็ไม่ไป โดยลำพัง “อภิสิทธิ์” เองก็ไม่ใช่จะมีพลังเป็นตัวเต็ง

โพลหล่นไปอยู่อันดับสาม ตามเงื่อนไขสถานการณ์เร่งเครื่องยังไงก็ไม่ขึ้น

โอกาสเดียวคือ “ฟลุก” เท่านั้น ลูกไหลมาเข้าเหลี่ยมแบบบุญหล่นทับตีนบวม

เอาเป็นว่าคนทั้งประเทศรู้ไต๋ดี โอกาสที่ “อภิสิทธิ์” จะรีเทิร์นเก้าอี้นายกฯตามฝันนั้นยากมาก แต่การตัดสินใจที่ “อภิสิทธิ์” ตีไพ่ออกมา ทั้งไม่เอาคนโกง ทั้งไม่เอากับการสืบทอดอำนาจเผด็จการ

โดยที่รู้แล้วว่าผลเลือกตั้งเป็นยังไง อย่างไรเสียตัวเองก็ไม่มีโอกาสเป็นหัวขั้วจัดรัฐบาล

มันก็เหตุผลเดียว ได้แค่โชว์ฟอร์มหล่อๆ กระตุกคะแนน พร้อมรักษาจุดยืน ล้างมลทิน ฟื้นเครดิตจากที่เคยตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร “อภิสิทธิ์” หาจังหวะไต่บันไดลงจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

แบบไม่เสียทรงมากจนเกินไป.

กำปั้นหยก