แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้ ถึงตรงนี้ทีมดูไบไม่มีทีเด็ดอะไรมาต้าน “นายกฯลุงตู่” แล้ว

ทั้งในมุมของตัวบุคคลที่เปิดไพ่มาหมด “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง หรือ “มนุษย์แกร่งสุดในปฐพี” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซีอีโอสายวัด

โมเมนตัมยังไม่เท่า “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยซ้ำ

ยิ่งในมุมของนโยบายเลือกตั้งที่เป็นจุดขายของยี่ห้อ “ทักษิณ” ยิ่งเห็นได้ชัดว่า “หมดมุก” จากที่กองเชียร์ลุ้นทีเด็ดประชานิยมเจ้าเก่ามาโชว์เบิ้ลบลัฟตบหน้าคู่แข่ง

แต่เอาเข้าจริงก็แค่มอตโต้ลอยๆบนป้ายหาเสียง เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องเพื่อไทย

กับมุกเอามันเอาฮา “อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ” แทบไม่มีอะไรจับต้องได้ในเชิงรูปธรรม นั่นไม่เท่ากับอาการแปลกๆ พอพูดถึงนโยบายจำนำข้าว “มนุษย์แกร่งสุดในปฐพี” อย่างนายชัชชาติต้องรีบโกยอ้าว บอกปัดถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะไม่เดินหน้าโครงการจำนำข้าวต่อ

อารมณ์จุกคอหอย เหมือนตัวเลขหลายแสนล้านมันค้ำคอ

มันคือปมด้อยของยี่ห้อ “ทักษิณ” จากมหกรรมทุจริตโครงการจำนำข้าวที่ก่อความเสียหายงบประมาณแผ่นดิน คิดตัวเลขขาดทุนคร่าวๆ เอามาก่อสร้างรถไฟฟ้าได้เป็นสายๆ

ไหนจะผลแห่งกรรมสดๆร้อนๆที่ทีมดูไบสะดุดหัวคะมำจากโดนยุบพรรคสาขารอง ต้องตาลีตาเหลือกหาช่องผ่องถ่ายคะแนน ทษช.ไม่ให้เสียไปฟรีๆ

ทุกอย่างเป็นใจ เกมไหลเข้าทาง เกิดเป็น “นายกฯลุงตู่” มันช่างโชคดีจริงๆ

และจะดีกว่านั้นถ้า “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล้าเดินหาเสียง ไม่เป็นนางอายอยู่กลางขุนทหารรายล้อม แล้วปล่อยให้ 4 กุมารพลังประชารัฐไปรำไท้เก๊ก รำพัด หาเสียงกันเช้าจดเย็น อีกด้านก็เป็นนักการเมืองเก๋าๆ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เดินสายปราศรัย เปิดหน้าโซ้ยกับ “นายเก่า” ล่อเป้าแทน

...

ในทางกลับกันต้องไม่มีรายการผิดคิว แบบที่ “พี่น้อง 3 ป” ควงกันไปเดินตลาดนัดจตุจักร โชว์อีเวนต์จัดระเบียบแผงลอย แต่ภาพข่าวหน้าหนึ่งไปเข้าเหลี่ยมพวกหมั่นไส้ ฉวยเหลี่ยมกระตุกฉากย้อนอดีตยุค “ถนอม-ประภาส”

พี่น้องท็อปบูตพลาดทำแต้มหล่น ขณะที่นักการเมืองวิ่งเก็บแต้มกันเหงื่อตก

เอาเป็นว่า ถึงตรงนี้โฟกัสเฉพาะตัวพระเอกอย่าง “นายกฯลุงตู่” คนเดียว ผู้เชี่ยวชาญการเมืองฟันธง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม ถ้า “ลุงตู่” ออกจากวงล้อมทหารลุยถั่วเดินสายเอง พลังประชารัฐกวาดแต้มแน่นอน

และตอนนี้เริ่มมองข้ามช็อต พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดรัฐบาล การฟอร์มรัฐบาลเพื่อบริหารจากนี้ไปอีก 3 ปี จะเป็นอะไรที่ยากกว่ารัฐบาล คสช. 4-5 ปีที่ผ่านมาหลายเท่านัก

ในมิติของสถานการณ์โลก สงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีน ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ส่อซึมยาว ขณะที่โครงสร้างการเมืองไทยความขัดแย้งยังแฝงอยู่ในหมู่ขั้วเดิมๆ ทหารก็ยังแทรกตัวอยู่ในกระบวนการอำนาจและผลประโยชน์ ท่ามกลางความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อสถานการณ์ประเทศไทยที่มีอยู่ตลอด ขึ้นลงตามเหตุเฉพาะหน้า

แต่ทุกอย่างแก้ได้ เซตการเมืองให้นิ่งคำเดียวเลย.

หมัดเหล็ก